จุดหรือ DOT ในชื่อ mail ของ gmail

          ผมได้อ่านกระทู้แนะนำของคุณ ศุภชัย(หาดใหญ่)ประเสริฐเวชทนต์ ซึ่งเป็นขาประจำที่คอยมาตอบคำถาม ให้ความช่วยเหลือด้านคอมพิวเตอร์กับเพื่อนๆใน pantip.com ซึ่งส่วนมากก็ห้อง ซิลิคอนวัลเลย์  
วันนี้ก็มีทิปดีๆมาให้อ่านกัน เลยส่งข้อความไปขออนุญาต มาลงไว้ในบล็อคไว้ เผื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่น ซึ่งก็ได้อนุญาตอย่างดี มาดูกันครับ


• คุณเปลี่ยนตำแหน่งหรือเพิ่มหรือลด Dot ได้ตามสบายครับ

a.bcde@gmail.com  = ab.cd.e@gmail.com


‹• ในชื่อ e-mail ของ gmail นั้น  Dot ใช้เพียงเพื่อแทนเว้นวรรคให้อ่านง่ายครับ
   ดังนั้น หาก mail ของคุณยาว และอ่านยาก คุณสามารถใช้ dot ช่วยแบ่งให้อ่านง่าย ได้เลยครับ

salemanagercompany@gmail.com  = sale.manager.company@gmail.com

• แม้ว่า gmail ของคุณ ไม่มี dot ......... ในตอนสมัคร
   แต่เวลาจะบอกเพื่อน หรือเขียนลงนามบัตร
   คุณใส่ dot เพื่อให้อ่านง่าย ก็ได้ครับ
   (รวมถึง ถ้าเดิมมี dot แล้วไม่อยากใส่ ... ก็ได้ครับ)

supachai.example@gmail.com  = SupachaiExample@gmail.com
pantipmember57001@gmail = Pantip.Member.57.001@gmail

• เวลา Sign in .........จะมี dot หรือไม่มี dot ก็ได้ผลเหมือนกันครับ
  คือ Sign in ผ่านได้ทั้งนั้น

• เวลาจะส่ง mail ถึงคนอื่น ที่เป็น gmail หากเผลอใส่ dot หรือ ลืมใส่ dot ในชื่อเขา ก็ไม่ต้องตกใจครับ
   ผู้รับจะได้รับ mail นั้น ไม่ว่าคุณจะคีย์แบบมี dot หรือ ไม่มี dot  ก็ตาม ครับ

• รวมถึงพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ด้วยครับ



ตัวอย่างเพิ่มเติม (สมมุติ)

pantipmember57001@gmail = pantip.member.57.001@gmail  (เพิ่ม dot)
pantipmember57001@gmail = Pantip.Member.57.001@gmail  (ตัวพิมพ์ใหญ่เล็ก และเพิ่ม dot)

salemanagercompany@gmail.com  = sale.manager.company@gmail.com (เพิ่ม dot)
salemanagercompany@gmail.com  = SaleManagerCompany@gmail.com (ตัวพิมพ์ใหญ่เล็ก)
salemanagercompany@gmail.com  = Sale.Manager.Company@gmail.com (ทั้ง 2 อย่าง)

supachai.example@gmail.com  = supachaiexample@gmail.com (ไม่คีย์ dot)
supachai.example@gmail.com  = SupachaiExample@gmail.com (ตัวพิมพ์ใหญ่เล็ก)

ที่มา : http://pantip.com/topic/31477735

ทำ label, filter ง่ายๆ ใน Gmail เพียงใช้เครื่องหมาย "บวก" (+)

          เราอาจจะยังไม่รู้ว่า  Gmail เองนั้นมีออปชั่นมาให้เราใช้เยอะมาก เพียงแต่ว่าเรายังไม่รู้ถึงวิธีการใช้งานมัน อย่างวันนี้ สมมติว่า เราเป็นคนนึงที่ต้องใช้ E-mail ติดต่อกับหลายหน่วยงาน หรือสมัครใช้งานตามเว็บต่างๆ แต่ก็ไม่อยากที่จะสมัครเมล์ใหม่ ทีนี้ พอจะมาค้นดูเมล์ย้อนหลัง อาจจะเสียเวลา เพราะเราไม่ได้แปะ Label ไว้ตั้งแต่ตอนแรก

 ตัวอย่างถ้าเราแปะ Label ไว้มันก็จะทำให้เราหาง่ายขึ้นดังรูปด้านล่าง



          แต่หากเราไม่อยากแปะ Label เองแบบนั้น ที่จริงเราก็สามารถใช้ เมล์หลัก ตามด้วยเครื่องหมาย บวก (+) แล้วตามชื่อ หรือข้อความ 

ตัวอย่างเช่น
สมมติว่าเมลเราจริงๆ คือ hello@gmail.com
ถ้าเราต้องการแบ่งตัวกรองให้เพื่อนสมัยประถม กับสมัยมหาวิทยาลัย ก็ให้ใส่เมล์เพื่อแจ้งเพื่อนเราเป็น

hello+pratom@gmail.com                เพื่อกรองเมล์เพื่อนจากประถม
hello+University@gmail.com           เพื่อกรองเมล์เพื่อนจากมหาวิทยาลัย
(คำที่ต่อท้ายเราใช้อะไรก็ได้ ตามความเข้าใจของเรา)

ที่ต้องการ ซึ่งเราจะสามารถเอาไว้ใช้ในการทำ label, filter ได้ครับ เพื่อไว้กรองเมลเป็นสัดส่วนได้




ที่นี้มาดูในเมล์หลักของเราคือ hello@gmail.com  เมล์ทั้งหมดที่ส่งเข้ามาจะยังคงถูกส่งมาที่  hello@gmail.com ตามปกติ แต่เราสามารถคัดกรอกตาม label ที่เราใส่ไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
         ลองมาดูที่อยู่ข้างใน จะเห็นว่าเมล์โดนส่งไปที่ hello+pratom@gmail.com แต่ก็มาเข้าเมล์หลักเราปกติครับ



ข้อดีสำหรับหัวข้อนี้ ก็คือ เราสามารถเพิ่มข้อความใดๆ ขึ้นมาเองได้ เพียงเติม + โดยที่มันไม่ใช่ชื่อจริงของอีเมล์เราเลย แต่ทำให้เป็นการแยกคำออกจากกัน สามารถที่จะแบ่งกลุ่มเมล์ หรือเอาไปสมัครตามเว็บต่างๆ ที่สามารถให้ใช้อีเมล์เดียวในการสัคร อันนั้นก็แล้วแต่การประยุกต์ใช้ครับ

ทำไงดี G-mail ของเราใครแอบเข้าใช้เนี่ย ?

          เชื่อว่าหลายๆคนที่ใช้ Gmail เป็นหลักที่ใช้ในการติดต่อในการทำงานประจำวัน ซึ่งบางคนก็ปล่อยให้หน้า "inbox" มีเมล์จนเต็มหน้า แต่รู้บ้างหรือไม่ว่า บางครั้งถ้าเราเคลียร์เมล์ออกซะบ้าง จะเป้นการดี เพราะอะไรเหรอ ปกติด้านมุมขวามือล่างจะมีบอก "กิจกรรมล่าสุดของบัญชี" ของเราไว้ และหากมีการ Log in ค้างไว้หรือมีคนแอบเข้ามาใช้ เราจะไม่สังเกตุเห็น เพราะมันมองไม่เห็น ต้องเลื่อนลงมาดู ดังตัวอย่างข้างล่าง


 ตอนถ้าเลื่อนลงมา จะเห็นว่าตอนนี้มีการใช้งานเมล์เราอีก 1 ที่ หากว่าเราเข้าใช้เอง ก้คงไม่เป็นไร แต่หากเป้นคนอื่นละ ที่แอบมาใช้เมล์ของเรา อันตรายครับ
          ( ปล.เปิดในตำแหน่งอื่นอีก 1 แห่ง สมมติถ้าเราเปิดคนละ Browser ในเครื่องเดียวกันมันก็จะขึ้นแบบนี้ด้วยครับ)  



          ถ้าเราไม่ใช่เป็นคนเปิดเอง ก็คลิกไปดูที่ "รายละเอียด" ครับ เมื่อเข้าไปจะเจอ "กิจจกรรมในบัญชีนี้" โดยมันจะบอกว่า ตอนนี้มีการใช้งาน e-mail นี้จากที่ใด  เช่นจากอุปกรณ์มือถือ (mobile) หรือจาก  คอมพิวเตอร์เป็นต้น  และสามารถยังเช็ดได้ด้วยว่า เข้าใช้งานจากที่ไหน เวลาเท่าไร โดยดูจากช่อง  Location (IP address) ตำแหน่งที่ตั้ง (ที่อยู่ IP) ก็จะทราบถึงประเทศและ IP ของอุปกรณ์ที่เข้ามา
          หากดูแล้วไม่ใช่จากอุปกรณ์ที่เราใช้ ก็ทำการ "ออกจากระบบการใช้งานทั้งหมด" ก่อน และทางที่ดีที่สุดหลังจากนั้น "ควรเปลี่ยน Password โดยทันทีครับ"



จากนั้นเมื่อออกเสร็จ ทาง Gmail ก็จะมีข้อความแจ้ง "ออกจากระบบที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดแล้ว
หมายเหตุ: ผู้ใช้งานสามารถลงชื่อเข้าระบบได้อีกครั้งถ้าเขารู้รหัสผ่านของคุณหรือถ้าบันทึกรหัสผ่านนั้นไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณไม่ต้องการให้ใครใช้บัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต โปรดเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ"


และกลับไปดูที่ inbox หน้าแรก

 
จะเห็นว่าจะไม่มีแจ้งแล้วว่ามีการใช้งานจากที่อื่น เพียงแค่นี้เราก็สามารถใช้ Gmail ได้อย่างสบายใจครับ แต่สิ่งสำคัญก้คือหลังจากเปลี่ยน Password แล้ว ต่อไปก็หมั่นตรวจสอบ และเปลี่ยนรหัสอยุ่เรื่อยๆจะเป็นการดี

ยกเลิกซ่อนโพสในหน้าฟีด ( New Feed) ใน Facebook

          หากบางครั้งเราเผลอไปกดซ่อนเพื่อน ซ่อนหน้า ซ่อนกลุ่ม หรือแอพต่างๆไม่ให้แสดงหรือฟีด (Feed) บนหน้า Timeline ของเราแล้ว แต่วันหนึ่งเปลี่ยนใจ อยากจะให้มาโชว์อีก ( เฉพาะเพื่อน เพจ หรือหน้าที่เรายัง Follow หรือติดตามอยุ่เท่านั้น) เราสามารถไปตั้งให้มันกลับมาโชว์เหมือนเดิมได้  เพราะผมเชื่อว่า บางคนหาไม่เจอ 55 มาดูการตั้งค่ากันครับ

1. ขั้นแรกก็ไปที่หน้า Timeline ของเราใน Facebook จากนั้นไปที่ "ฟีดข่าว" กดเข้าไปจะเห็นเป็นรูปดินสอ >> เลือก "เปลี่ยนการตั้งค่า" 



2. จากนั้นเมื่อเข้าไป จะเห็นว่ามีการ ซ่อนเพื่อน ซ่อนหน้า ซ่อนกลุ่ม หรือแอพต่างๆ ถ้าเราต้องการให้หน้าไหนกลับมาโชว์ก็ไปลบออกโดยกดที่เครื่องหมาย กากบาท นั้นๆ ครับ เท่านี้ก็จะโชว์ตามปกติใน Timeline เราแล้ว ส่วนการตั้งค่าว่า จะให้โชว์มากน้อยแค่ไหน ก็ไปตั้งค่าที่หน้านั้นๆครับ


เรื่องที่เกี่ยวข้อง FACEBOOK


Advertisement