วิธีสังเกตุ Mobile App Internet Banking ของจริง

          ความสะดวกสบายจากการใช้ Internet Banking นั้น ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ผมก็ใช้งานอยุ่ประจำ แต่ผ่านทางเว็บไซด์มากกว่า ยังไม่เคยใช้ในมือถือ ทั้งที่มันมีออกมานานแล้ว เพราะยังเห้นว่า ยังไม่ค่อยมั่นใจกับความปลอดภัยเท่าไรในโทรศัพท์
          แต่หากเพื่อนๆคนไหนต้องการที่จะใช้ ก็ควรระวังในการดาวน์โหลด Application ที่อยุ่บน store ต่างๆว่าเป็นตัว Official ของทางธนาคารนั้นๆหรือไม่ เพราะเดี่ยวนี้มี Application ปลอมออกมาระบาดเพื่อดักจับข้อมูลทางการเงินของเรา
          ตอนนี้ก็เห็นมี 2 ธนาคาร (ธนาคารอื่นก็น่าจะมี แต่พอดีผมใช้แค่ 2 ธนาคารนี้และสมัครรับ Official Account Line ไว้อยู่ ) ส่งมาให้ระวัง Mobile App Internet Banking  โดยมีวิธีการสังเกตุง่ายๆคือ

SCB
"ขณะนี้มี mobile app Internet Banking ปลอมของหลายธนาคารที่ไม่ได้ทำโดยธนาคารเอง อยุ่บน Google Play Store (!)(!)(!) อย่างไรก็ระวังกันด้วยนะฮะ วิธีการสังเกตก่อนโหลดก็ให้ดูกันตรงที่ developer ตามนี้เลย"
ที่มา SCB Line Official Account  

KBANK
"ตามที่มีข่าวเรื่อง Mobile Banking Application ปลอมของหลายธนาคารบน Google Play Store ในช่วงนี้ กรณีดังกล่าวทางธนาคารกสิกรไทยยังไม่พบ Application ปลอมใดๆที่เกี่ยวข้องกับธนาคารนะคะ และธนาคารมีทีมที่คอยดูแล ตรวจหาและดำเนินการกำจัด Application ปลอมเหล่านี้โดยเฉพาะ ขอให้ลูกค้ามั่นใจกับระบบป้องกันความปลอดภัยของธนาคาร อย่างไรก็ตาม ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้ใช้ว่า Application ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารกสิกรไทยนั้น ให้สังเกตที่ชื่อ Developer จะใช้ชื่อว่า KASIKORNBANK PCL. เท่านั้น ตามรูปนี้ "


ที่มา KBANK Line Official Account 
ในส่วนธนาคารอื่นๆ ก็สังเกตุในลักษณะเช่นเดียวกันครับ



*934# บริการเพิ่มวันทันใจ Truemove-H

          บริการเพิ่มวันทันใจ Truemove-H  เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป โดยมีวิธีการสมัครคือ

• สมัครบริการกด *934# แล้วโทรออก ค่าบริการ ครั้งละ 3 บาท (ไม่รวม Vat) 
หรือสามารถกดแบบ USSD ตามรูป


   ข้อควรทราบ
• ลูกค้าต้องเปิดใช้บริการครบ 90 วันถึงจะสามารถใช้บริการนี้ได้ (การย้ายมาจาก Truemove ธรรมดาก็ต้องรอให้ครบ 90 วันเช่นกัน)
• ได้รับวันใช้งานครั้งละ 30 วัน หลังจากได้รับ SMS ยืนยัน
• สะสมจำนวนวันได้สูงสุดไม่เกิน 365 วัน หรือ 90 วัน ตามเงื่อนไขของซิม/โปรโมชั่นที่ลูกค้าใช้งาน

แต่ถ้าหากใครยังไม่ครบ 90 วันก็คงต้องใช้วิธีเติมเงินเข้าไปก่อน โดยวันใช้งานจะได้ตามรูปด้านล่าง

จำนวนวันเติมด้วยบัตรเติมเงินทรูมูฟ เอช
และสามารถเช็คการเติมเงอนผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่ http://truemoveh.truecorp.co.th/3g/topup

แนวข้อสอบ กสท โทรคมนาคม (CAT Telecom) 2557

          ผ่านไปแล้วกับการสอบเมื่อ 23 มีนาคม 2557  ก็เลยนำแนวที่สอบกันมาฝาก เผื่อเป็นแนวทางสำหรับครั้งหน้า ตำแหน่งวิศวกร ฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงสื่อสารไร้สาย


1.วิศวกร ฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงสื่อสารไร้สาย
ช่วงเช้า จะออกเป็น 10 ข้อใหญ่ ส่วนข้อย่อยเยอะมาก จำไม่ค่อยได้นะครับ แต่แนวๆนี้  
  1. จงอธิบายหน้าที่ การทำงานของ HSPA (10 คะแนน)
  2. จงอธิบายคำย่อ เช่น AAA,SCSI,CDR,MNP,SMMP,DNS ยังมีอีกหลายตัว จำไม่ได้ ( ข้อนี้ 12 คะแนน)
  3.  ให้อธิบายคำสั่ง UNIX/Linux เช่น การสร้างไฟล์ ,การย้ายไฟล์ ,การ copy ไฟล์ , การเปลี่ยนชื่อไฟล์ เป็นต้น ( ข้อนี้จำไม่ได้กี่คะแนน)
  4.  ถามเรื่อง Transmission เช่นพวก SDH มี 2-3 ข้อย่อย ( จำคะแนนไม่ได้)
  5.  ถามเรื่องการโอนสาย มีกี่ประเภท อะไรบ้างอธิบาย ( จำคะแนนไม่ได้)
  6.  พวก Network ให้ IP/Subnet Mask ให้คำนวณ rank , ให้ route มาแล้วให้อธิบายแต่ละ IP มีการออกไปทางไหนบ้าง , ให้ Subnet Mask มาให้เขียนเป็น  Wildcard Mask (จำคะแนนไม่ได้)
  7.  ถามกรณีเกิด Alarm ........ (บอกชื่อ Alarm มา) ในฐานะเจ้าหน้าที่เวรต้องแก้ไขอย่างไร อธิบาย และยังมีข้อย่อยอีก ข้อสองข้อ (จำคะแนนไม่ได้)
  8. Serving GPRS Support Node (SGSN) and Gateway GPRS Support Node (GGSN) คืออะไร มีความสัมพันธ์กันอย่าไร อธิบาย 
  9. จงบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ทำไมคุณอยากทำงานที่ CAT โดยเฉพาะ  ส่วนงาน Wireless Maintenance (7 คะแนน)
  10. จงบรรยาเป็นภาษาอังกฤษ คุณคิดอย่างไรกับระบบ 4G ในประเทศไทย  (8 คะแนน)

ส่วนภาคบ่าย ทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป ธรรมาภิบาล และภาษาอังกฤษ
  • ความสามารถทั่วไป ไม่ค่อยยากเท่าไร ออกทั่วไป ดูรูป อ่านกราฟ มีคิดเลขเล็กน้อยๆคล้ายที่สอบความรู้ความสามารถของ กพ. ทั่วไป
  • ภาษาอังกฤษ เป็นไวยากรณ์ อ่านบทความและตอบคำถาม ทั่วไป ไม่ยาก
  • ธรรมภิบาล ถามเกี่ยวกับธรรมาภิบาลในความเข้าใจคืออะไร ,ทำไมเมืองไทยยังมีการทุจริตคอรัปชั่น, ทำไมเมืองไทย ในสังคมจึงไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องธรรมาภิบาล  ประมาณนี้ครับ

ผัดพริกแกงกุ้งใส่สะตอ

    พอนึกถึงผัดพริกแกงกุ้งใส่สะตอ กับข้าวสวยร้อนๆแล้วก็คงทำให้หลายคนเกิดอาการอยากกินข้างขึ้นมาทันที วันนี้มาลองหัดทำกันเลยดีกว่า แล้วจะบอกว่าง่ายมากๆ แถมวัตถุดิบก็มีไม่กี่อย่าง พระเอกนากเองงานนี้ก็คงหนีไม่พ้น กุ้งกับสะตอค่ะ

เครื่องปรุง
1. พริกแกงเผ็ด
2. กะปิเคอย
3. น้ำปลา
4. น้ำมันพืช
5. กุ้ง
6. สะตอ (พระเอกของเมนูนี้เลยล่ะ)



วิธีทำ

   ตั้งกะทะเทน้ำมันลงพอประมาณ ตามด้วยพริกแกงเผ็ดและกะปิเคอย ผัดจนกลิ่นหอม

 
จากนั้นก็ใส่สะตอที่ปลอกผ่าครึ่งแล้วลงไป ผัดจนสะตอเริ่มสุกใส่น้ำปลาเพิ่มรสชาดเล็กน้อย



                          เติมน้ำต้มสุกหรือน้ำซุบได้นะค่ะ เพื่อไม่ให้ติดกะทะจนเกินไป

                        ตามด้วยใส่กุ้งลงไปผัดให้เข้ากัน พอกุ้งสุกก็ตักใส่จานได้เลยล่ะคะ


                             หน้าตาน่าทาน ผัดสะตอใส่กุ้ง กินกับข้าวสวยร้อนๆ



แกงหน่อไม้ใส่เห็ด

     วันนี้เรามีเมนูเพื่อสุขภาพง่ายๆมาฝากค่ะ "แกงหน่อไม้ใส่เห็ด"

เครื่องปรุง
1. น้ำย่านาง
2. หน่อไม้สด (ต้มให้จืด)
3. เห็ดต่างๆ (เห็ดฟาง เห็ดขอน เห็ดถอบ เห็ดอื่นๆตามชอบค่ะ)
4. เกลือ
5. กะปิ หรือ จะเปลี่ยนเป็นน้ำปลาร้าก็ได้ (ตามชอบค่ะ)
6. พริกสด                                                  
 

วิธีทำ
     -  ต้มน้ำย่านาง ใส่หน่อไม้ลงไปได้เลยค่ะ เติมเกลือประมาณ 1 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนชา พริกสดโขลกเล็กน้อยพอแตก ต้มจนเดือดให้กะปิละลาย  ตั้งหม้อทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ใส่เห็ดลงไป

                  ปิดฝาหม้อทิ้งไว้อีกสัก 10-15 นาที ให้เห็ดสุก เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
                           เห็นน้ำดำๆ ไม่ต้องตกใจนะค่ะ น้ำย่านางล้วนๆ มีประโยชน์ค่ะ

เที่ยวตลาดน้ำขวัญ เรียม

         ได้ยินชื่อมาพักใหญ่  พึ่งจะได้มีโอกาสไปเที่ยว "ตลาดน้ำขวัญเรียม"  ซึ่งเป็นตลาดน้ำริมคลองแสนแสบ มีนบุรี ตั้งอยู่ระหว่าง 2 วัด คือ วัดบำเพ็ญเหนือ  ถ.เสรีไทย และวัดบางเพ็งใต้ ถ.รามคำแหง โดยมีคลองแสนแสบกั้นกลาง ทางผู้จัดได้สร้างสะพานเชื่อม 2 วัดนี้
          ตลาดเปิดวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 19.00 น. ที่น่าสนใจคือ มีการตักบาตรพระทางเรือ ในเวลา 7.20 น. การเดินทาง จะเข้าได้ 2 ทาง คือทางวัดบำเพ็ญเหนือ (ซอยเสรีไทย 60)  และทางวัดบำเพ็ญใต้ (ซอยรามคำแหง 187 )  มาพักดูบรรยากาศกันครับ   รูปแรกเป็นประตูทางเข้าวัดบางเพ็งใต้


สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของตลาดน้ำขวัญ-เรียมได้ที่เว็บไซต์  http://www.kwan-riamfloatingmarket.com
หรือที่ Facebook : https://www.facebook.com/kwanriamfloatingmarket?ref=hl

เมื่อเข้าไปด้านใน ด้านขวาของสะพานก็จะมีรูปปั้นตำนานขวัญเรียม และมีศาลตั้งอยู่ครับ


 ก่อนขึ้นสะพารมีคำกลอนที่ดีมาก "สะพาน สติ เป็นการสอนให้เราก้าวย่างอย่างมีสติในการดำรงชีวิต


 สะพานที่ว่าคือเชื่อมระหว่าง วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้ ซึ่งมีตลาดอยู่ทั้งสองฝั่ง เราจะเดินฝั่งไหนก่อนก็แล้วแต่อัธยาศัยครับ  อันนี้ถ่ายให้ดูสะพาน ซึ่งสะพานเค้าเอา กระดูกงูของเรือมาทำ ... ทำให้ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็สวยดีครับ



 วิวที่มองจากบนสะพาน


 ส่วนนี้จะเป็นป้ายตลาดน้ำขวัญ เรียม ซึ่งจะอยุ่ทางวัดบำเพ็ญเหนือ




 ซุ้มเกี่ยวกับอาหาร ของกินต่างๆ

 พวกเครื่องประดับ งานฝีมือ

ส่วนตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ของจิ๋วแห่งตลาดขวัฐ เรียม

รูปปั้นขวัญ เรียมอีกชุดหนึ่ง

ควายยิ้มมมม น่ารักไปอีกแบบ

อีกอย่าง ตลาดแห่งนี้ห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศ และยังเป็นชักโครกแบบอัตโนมัติกดปุ่มด้วยครับ 55



สำหรับผม ถึงแม้ว่ามีนเป้นตลาดที่สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ก็มีของกิน ของใช้ ของประดับ และบรรยากาศก้เหมาะที่เราจะไปเดินเล่น สำหรับคนกรุงเทพ เพราะอยู่ไม่ไกลออกไปมากครับ ลองไปเดินเล่นกันดูได้ 

หมูผัดพริกแกงถั่วฝักยาว

          หมูผัดพริกแกงถั่วฝักยาว เป็นอาหารอีกจานที่ทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาปรุงไม่นาน วันนี้มาแนะนำเมนูนี้กัน ก่อนอื่นเราก็มาดูส่วนผสมกันก่อน

 ส่วนผสมหมูผัดพริกเเกงถั่วฝักยาว  

1. หมูเนื้อแดง ( หรือหมู 3 ชั้น)
2. ถั่วฝักยาว
3. น้ำมันพืช
4. น้ำตาลทราย
5. น้ำปลา
6. พริกชี้ฟ้าแดง
7. พริกแกงเผ็ด
8. กระเที่ยม
9. พริกไทยอ่อน
10.ใบมะกรูด





วิธีการทำ

1. หั่นถั่วฝักยาวแบบเฉียง พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง  และหมูสามที่เตรียมไว้


 2. ตั้งน้ำมันในกระทะใช้ไฟร้อนพอปานกลาง จากนั้นเอากระเทียวเจียวน้ำมัน (น้ำมันไม่ต้องเยอะ บางสูตรก็เอาหมูผัดกับพริกแกงเลย ไม่ใส่น้ำมัน อันนั้นแล้วแต่สุตรใครสูตรมัน) เอาหมูลงผัดจนเกือบสุก


3.  จากนั้นจึงใส่เนื้อหมูและถั่วฝักยาวลงไป ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ผัดจนเนื้อหมูเกือบสุกและถั่วฝักยาวนิ่ม


3. บางที่จะใส่กะทิลงไปเล็กน้อย ผัดสักพักให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลและเกลือ ตามชอบ ถ้าให้ดี ใส่พริกไทยอ่อนและใบมะกรูด จะหอมมาก จากนั้นก็รับประทานได้เลย


แกงไตปลา อย่างง่าย

          แกงไตปลา เป็นอาหารพื้นบ้านทางภาคใต้ ใครไปเที่ยวใต้ ต้องลอง ถ้าไม่ได้ลองแสดงว่ายังไปไม่ถึงปักษ์ใต้ 55 แต่เดี๋ยวนี้ส่วนมากแกงไตปลาหากินได้ทั่วไปทั้งใน กทม. หรือที่ต่างๆ เพราะมีร้านอาหารใต้เปิดอยู่ทั่วไป
          วันนี้จะมาลองทำแกงไตปลากัน ก่อนอื่นหาซื้อไตปลามาก่อน ขวดนี้ไปหาได้แถวร้านของชำแถวหอที่พักอยู่ (แถวๆอยุธยา บังเอิญแกเป็นคนใต้ มีขายซะด้วย)

 

กลับมาเตรียมเครื่องแกงกันต่อ เครื่องแกง ที่เค้าใส่ๆ จะประกอบด้วย
1. พริกขี้หนูแห้ง
2. พริกขี้หนูสด
3. พริกไทย
4. หอมแดง
5. กระเทียม
6. ขมิ้น
7. ข่าหั่นบางๆ
8. ตะไคร้
9. กะปิ
ส่วนใครจะชอบรสชาดยังไง ก็กะกันเอาเองนะครับ สูตรใครสูตรมัน แต่พอดีได้ซื้อเครื่องแกงสำเร้จรูปไว้ สบายเลย สามารถปรุงได้ทั้นที


วิธีทำ


- นำเครื่องแกงทั้งหมดมาโขลกให้ละเอียด ( สำหรับคนที่ยังไม่ได้เตรียมไว้ )

- ต้มไตปลาที่เตรียมไว้ ในน้ำประมาณเอา ตั้งไฟให้ไตปลาละลาย แล้วนำมากรองเอาแต่น้ำ  จากนั้นเอาน้ำไตปลาที่กรองไว้แล้วมาตั้งไฟอีกที เอาเครื่องแกงที่เตรียมไว้ใส่ลงไป

- รอจนน้ำแกงเดือด และให้เครื่องแกงละลายหมดแล้ว ใส่ปลาย่างลงไป ตามผักที่เตรียมไว้ เช่นพวกมะเขือ ถั่วฝักยาว แต่วันนี้ขอใส่เป็นฟักทองกับมะเขือ ใส่ลงไปตามต้องการ เติมน้ำให้พอเหมาะแล้วชิมรส ปรุงให้ถูกใจ   (ต้องลองชิมดูก่อนอย่าเพิ่งใส่เกลือลงไป เพราะตามปกติ ไตปลาที่ขายจะเค็มอยู่แล้ว เดี๋ยวใส่เยอะไปจะกินไม่ได้ 555)


- จากนั้นตั้งใฟจนเดือดซักพัก ดูผักที่ใส่ให้พอสุก ใส่น้ำตาลสักนิด  แล้วก็ฉีกใบมะกรูดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป 

แล้วยกหม้อลงจากเตา ทานกับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียว หรือทานกับขนมจีนก็เข้ากันดี ผักเคียงก็แล้วแต่หาได้

 เสร็จละ ที่นี้ก็ตักข้าวร้อนๆซักจาน หรือกินกับขนมจีนก็อร่อยไปอีกแบบ ลองทำกันดูนะครับ ไม่ยากๆ แล้วจะบอกว่า หรอยจังฮู้!!

แกงเคอยปลา (อาหารปักษ์ใต้โดยแท้)

    แกงเคอยปลา (อาหารปักษ์ใต้โดยแท้) พอพูดถึงกลิ่นเคอยปลา หลายคนคงร้องหยีกับกลิ่นเหม็นๆของมันซะเหลือเกินแต่พอปรุงเสร็จพร้อมรับประทานเมื่อไหร่ หลายคนก็มักจะติดใจในรสชาด มาดูวิธีการทำเลยดีกว่าค่ะ 
เครื่องปรุง
1. เคอยปลา
2. ขมิ้น
3. พริกแกงเผ็ด
4. เคอยกะปิ
5. เนื้อปลาย่าง
6. ผักสด (มะเขือ ถั่วฟักยาว มะเขือพวง ฯลฯ)





ส่วนนี่ เคอยปลา พระเอกของเราสำหรับหม้อนี้ 


วิธีทำ
ก่อนอื่นต้องนำเคอยปลาไปละลายในน้ำเดือดๆ เพื่อกรองเอาก้างปลาออกให้หมด ตั้งหม้อให้เดือดทุบขมิ้นสัก 1-2 หัว (เพื่อดับกลิ่น) ตามด้วยเคอยปลาลงไปละลาย เน้นนะค่ะว่าน้ำต้องเดือดเพื่อลดกลิ่นคาวของปลา


          เมื่อได้นำเคอยปลาแล้ว นำมาตั้งหม้อ เติมพริกแกงเผ็ดลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (อันนี้เพิ่ม หรือ ลดได้ตามความชอบค่ะ) ต่อด้วยเคอยกะปิครึ่งช้อนชา รอให้พริกแกงกับเคอยกะปิละลายหมด


จากนั้น ก็ให้ใส่เนื้อปลาย่างลงไป ตามด้วยผักนานาชนิด ตอนใส่ผักหม้อควรจะเดือดนะค่ะ เพื่อไม่ให้ผักกระด้างไม่น่ารับประทาน ชิมรสตามชอบ



ปิดท้ายด้วยใบมะกรูดเพื่อเพิ่มความหอมอีกสักนิด เท่านี้ก็จะได้แกงเคอยปลาที่สุดแสนจะอร่อยแล้วล่ะค่ะ


Advertisement