SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 9 วิธีเอาตัวรอด เมื่อเถ้าแก่ต้องเป็นหนี้

          หลายๆ ครั้งที่การทำธุรกิจ อาจไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เมื่อไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก การดำเนินกิจการ ต้องประสบกับภาวะขาดทุน มีภาระหนี้สินบวกกับดอกเบี้ยที่พอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลองศึกษาวิธีเหล่านี้ที่จะแนะนำให้ท่านแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้เอาตัวรอดต่อไปได้



1.เมื่อธุรกิจเป็นหนี้ ให้ใช้วิธีเคลียร์เจ้าหนี้ ค่อยๆ ทยอยจ่าย หากต้องตัดใจขาย ไม่ยอมเสียสิ่งที่เชื่อว่าจะสร้างเงินได้ในอนาคต คือ เครื่องมือทำมาหากิน อาทิ คอนโดที่มีคนเช่าอยู่ โรงงานผลิตสินค้า หรืออพาร์ตเม้นท์

2.พยายามปรับตัว ใช้ชีวิตให้เข้ากับภาวะทรัพย์สินในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

3.บอกตัวเองเสมอว่าต้องสู้ ต้องทำได้ ต้องอยู่รอด

4.ถ้าคุณต้องเข้ามาสานต่อธุรกิจที่เป็นหนี้สิน ขอแนะนำว่าควรจะเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ รวมทั้งไตร่ตรองคิดหาวิธีหาเงินมาใช้หนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าหนี้ว่า ธุรกิจของคุณยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งนี้ต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบว่า อะไรควรต้องสะสางก่อนและหลัง รู้จักเรียงลำดับความสำคัญ

5.ไม่กลัวหรือเครียดกับปัญหา แต่ให้รู้สึกท้าทายและสนุกกับมัน รู้จักพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส นำความสูญเสียมาเป็นพลังในการเดินหน้าต่อไป

6.    มองและแยกปัญหาทีละส่วน อย่าเอาปัญหาทุกอย่างมารวมกัน ค่อยๆแก้ปัญหาทีละเปลาะ ทีละเรื่องอย่างมีสติ เช่น ปัญหาครอบครัว สุขภาพ การเงิน

7.เลือกมองด้านบวกของชีวิต ทำเพื่อคนที่เรารัก คนที่สร้างพลังบวกให้ชีวิต เช่น ลูก พ่อแม่ สามี ภรรยา เพื่อทำให้เกิดแรงบันดาลใจ และเกิดพลังในการต่อสู้

8.ปรับกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่นการทำธุรกิจส่งออก ต้องปรับให้เกิดความสมดุล เช่น ลดการนำเข้าหันมาหาแหล่งผลิตในประเทศ พร้อมกับเริ่มตั้งหน่วยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะงานด้านออกแบบต้องแตกต่างและมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ไม่เหมือนใครเป็นการวางแผนระยะยาว

9.มองโลกในแง่บวกและมองว่าทุกอย่างเป็นการเรียนรู้ เราควรจะเรียนรู้ให้มากที่สุด ถ้าเราไปอยู่ในที่ที่แย่มาก เราจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้น ดูให้ลึก ดูให้เรียนรู้

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 7 หนทาง วางแผนธุรกิจใหม่ ให้เติบโต

          การวางแผนธุรกิจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เจริญก้าวหน้าได้ ซึ่งหากคุณมีทุนมากพอก็ควรจะจ้างทีมการตลาดที่มีประสิทธิภาพ แต่หากเป็นธุรกิจ SMEs ลองอ่านแนวทางหลักๆ เหล่านี้ดูก่อน เพื่อเป็นไอเดียว่าจะบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างไร ข้อดีคือ คุณจะประหยัดงบการตลาดได้สบายๆ เลยล่ะ


1.การทำธุรกิจต้องมีการวางแผนที่ดี เช่น เดือนแรกถึงเดือนที่3 คุณมีเวลาให้ธุรกิจตัวนี้เท่าไร มีแรงซัพพอร์ตเท่าไร และจะได้เงินเท่าไร รวมทั้งต้องมีความตั้งใจและความรักในสิ่งที่ทำ เพียงเท่านี้ธุรกิจก็จะบรรลุเป้าหมาย

2.การวาง concept สำหรับทำธุรกิจ มีเรื่องสำคัญๆ 3 ข้อใหญ่ ข้อหนึ่ง brand concept ต้องมีแบรนด์ที่ชัด ว่าต้องการให้ลูกค้าและคนเขามองว่า เราเป็นอย่างไร ข้อสอง product concept ผลิตภัณฑ์ต้องมีเอกลักษณ์ อาทิ การจัดอาหารในจานที่ไม่เหมือนร้านอาหารอื่น หรือร้านกาแฟที่ส่งกลิ่นหอม ดึงดูดผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพื่อให้คนจำได้ ข้อสาม shop concept สไตล์ของร้านต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น ซึ่งหากมีการขยายร้านก็ยังใช้สไตล์เดิม หรือใกล้เคียงของเดิม

3.มีแผนการลงทุน หรือแผนการตลาดรองรับหลายๆ แผน หากแผนแรกไม่สำเร็จก็ยังมีแผนอื่นสำรองให้ได้เลือกใช้ ซึ่งควรจัดระบบให้เหมาะสมกับองค์กรของเรา

4.การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่มีดีไซน์ ฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้คนจดจำ

5.รู้จักประยุกต์ความรู้หลายๆด้าน เข้ากับธุรกิจของตัวเอง ข้อนี้ ทีมงานที่มีความสามารถในด้านนั้นๆ จะช่วยคุณได้

6.มององค์รวมในการบริหารธุรกิจของตัวเอง หากธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับส่วนอื่น เช่น จังหวัด ประเทศ โลก ให้มองภาพขององค์รวมให้ออก เพื่อการต่อยอด เช่น หากผลิตภัณฑ์ของคุณเข้ากับนโยบายที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมอยู่ ก็ควรติดต่อเพื่อขอเข้าร่วมโครงการ

7.บริษัทต้องมีรายได้แบบพอเพียง เพื่อขยายกิจการและดำเนินธุรกิจได้แบบยั่งยืน การควบคุม และดูแลรายรับ รายจ่าย ด้วยตนเองก็เป็นส่วนสำคัญ

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 7 ข้อ ปลุกเร้ากำลังใจ สร้างแรงฮึดเป็นเถ้าแก่กับเขาซะที

การเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้แรงกาย แรงใจ และแรงฮึดอย่างยิ่งยวด เพราะนอกจากจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองแล้ว ยังต้องเสี่ยงกับการลงทุนเงิน เวลา และโอกาส อีกด้วย เรามี 7 ข้อ เพื่อปลุกเร้าไฟฝันของคุณให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาอีกครั้ง

1.ฝันให้ไกล และต้อง ไปให้ถึง อย่ารีรอที่จะทำตามความฝันของตัวเอง ด้วยการเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้

2.ทำธุรกิจไม่มีคำว่าพร้อม100% หรอก เพียงแต่ตั้งหลักให้ดี ตั้งหลักให้มั่น อาจมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็จะผ่านไปได้เอง

3.มีหลักธรรมข้อใดข้อหนึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เพื่อให้เกิดพลังและสติปัญญา

4.ทำทุกอย่างที่เป็นหนทางหาเลี้ยงชีพโดยสุจริต และไม่รอให้โอกาสมาถึง ต้องเป็นฝ่ายวิ่งไปหาโอกาส ไม่เอาเวลามานั่งท้อแท้จนเสียพลังงานด้านบวก

5.รู้จักมองหากำลังใจหรือแรงบันดาลใจจากสิ่งใกล้ตัวในเวลาที่ท้อแท้ เพื่อให้เกิดแรงฮึดสู้ลุกขึ้นเดินต่อไป

6.เรียนรู้จากประสบการณ์ ที่ผ่านมา เก็บสิ่งดีๆ และไม่ดีไว้คอยเตือนใจอยู่ตัวเองอยู่เสมอ

7.อุปสรรคของการเริ่มต้นทำธุรกิจ คือ ความกลัว เราต้องกล้า บางขณะนั้นก็สองจิตสองใจ คิดต่อต้านในตัว ทะเลาะกับตัวเอง

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 6 เคล็ดลับเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ SMEs

          ปัจจุบัน ธุรกิจ SMEs หรือ ธุรกิจขนาดย่อม กำลังเผชิญกับมรสุมเศรษฐกิจฝืดเคือง จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดกับคลื่นมรสุมครั้งนี้ไปให้ได้ หากคุณกำลังคิดจะเปิดกิจการของตัวเอง หรือมีกิจการอยู่แล้วต้องการปรับตัว เรามีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำ




1.    รู้จักคิดพลิกแพลงวัตถุดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจของเรา เช่น นำสินค้าราคาถูกมาแปรรูปให้กลายเป็นสินค้าราคาแพง เช่น เครื่องสำอาง บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม

2.    SMEs ควรแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกนำไปลงทุน ปรึกษาธนาคาร LTF RMF กองทุนต่างๆ ตราสารหนี้ / ส่วนที่สองนำมาลงทุนทำธุรกิจ / ส่วนสุดท้ายเก็บสำรองไว้

3.    สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือ คิดให้ต่าง ซึ่งมองได้ 2 มุม มุมแรก การจะเริ่มต้นธุรกิจต้องคิดของที่ใหม่ที่สุดในโลก และการทำตลาดจากสิ่งที่คิดต่าง ส่วนมุมที่2 หากคิดให้แปลกใหม่ที่สุดในโลกไม่ได้ก็ต้องหาช่องว่างการตลาดให้เจอ คนไทยมีความซับซ้อน หลากหลาย ชอบอะไรใหม่ๆ เพราะฉะนั้นยังมีช่องว่างทำการตลาดได้อีก  เช่น ทำอาหารคลีน ต้องเน้นกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ หรือกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชน

4.    ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ อย่างการขายอาหารคลีน ควรหาทำเลเหมาะๆ สำหรับคนทำงาน น่าจะเป็นย่านสีลม สาทร หรือขายสินค้าแฟชั่น ก็อาจจะเน้นย่านวัยรุ่นช้อปปิ้ง เช่น สยาม

5.    เลือกทำธุรกิจที่ถนัด มองดูธุรกิจที่มีช่องว่างการตลาด ไม่ซ้ำกับใครที่มีวางขายในท้องตลาดอยู่แล้ว และต้องมีจุดขายของตัวเองที่ชัดเจน

6.    ไม่ยึดติดกับการจับตลาดใดตลาดหนึ่งเท่านั้น หันมากระจายความเสี่ยงด้วยการผลิตสินค้าจับตลาดได้แทบจะทุกกลุ่ม เช่น การผลิตขนมเพื่อสุขภาพ สามารถจับกลุ่มเด็ก และผู้ใหญ่ก็ได้

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 6 เคล็ดลับแสนง่ายดาย กวาดเงินในกระเป๋าลูกค้า (6 tips-sell)

          คุณคงจะเคยได้ยินวลีเด็ดๆ ที่ว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” แล้วใช่หรือไม่? ต่อไปนี้จะเป็นเคล็ดลับแสนง่าย เพื่อเอาใจพระเจ้าของเราให้เกิดความพึงพอใจอย่างถึงที่สุด และกลับมาใช้บริการ รวมถึงบอกต่อๆกันไปให้เหล่านางฟ้า และเทวดา เข้ามาจับจ่ายอุดหนุนสินค้าของเราให้มากยิ่งขึ้น


1.    รับฟังเสียงของลูกค้า ผู้บริโภคเปลี่ยนทุกวัน อย่าคิดว่า เราแน่เราเก่ง หรือเรารู้ดีที่สุด
2.    ขวนขวายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ
3.    การเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องมีใจบริการ รู้จักสังเกต ละเอียด รับฟังเสียงลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ตรงใจลูกค้าที่สุด
4.    การให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพนักงานของเราก่อน จึงทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อการบริการกับลูกค้า รวมไปถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม
5.    อย่าเบื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และคนใหม่ๆ ทุกวัน เพื่อผลิตสินค้าของเราให้โดนใจกับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ และทุกวัย
6.    จริงใจ ซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเอง และผู้ที่อยู่รอบข้าง อาทิ ลูกค้าในปัจจุบัน และลูกค้าในอนาคต

ใครรู้บ้าง URL นี้ถูกแชร์ใน Facebook ไปแล้วกี่ครั้ง

          ทุกวันนี้เราเข้าดู Facebook แต่ละคนอาจจะนับไม่ถ้วน ว่าวันๆหนึ่งเราเข้าไป update สถานะ หรือเข้าไปอ่านข่าวต่างๆ ใช้เวลาไปเยอะเท่าไหร ยิ่งเดี๋ยวนี้มีอะไรเราก้ใช้วิธีแชร์ผ่าน Facebook ไว้ก่อน ค่อยมาอ่าน หรือแชร์ให้เพื่อนๆเราได้ดู แต่อยากรู้ไหมว่า ข่าว หรือบทความต่างๆในเว็บไซต์ หรือ URL นั้นๆ ถูกแชร์ใน Facebook ไปแล้วกี่ครั้ง วันนี้เรามีวิธีตรวจดูกัน


1.ขั้นแรกทำการ log in เข้าบัญชี Facebook ของเราก่อน

2.จากนั้นทำการเปลี่ยน URL เป็น  http://graph.facebook.com/ ตามด้วย URL ที่เราจะเช็ค 
หา link ที่ต้องการตรวจสอบ  ผมเอาจาก blog ผมละกัน เอามาวางต่อท้าย  เช่น

http://graph.facebook.com/http://www.whoknown.com/2015/03/2558.html 

4. จากนั้นกด Enter  จะเห็นว่า มีบรรทัดที่มีคำว่า “shares”  ตัวเลขด้านหลังคำว่า “shares” คือจำนวนครั้งที่ถูกแชร์บน facebook ตัวอย่างนี้ก้มีแชร์ตอนนี้แค่ 31 ครั้ง

ซึ่งปกติ blog ของผมมีการปุ่มการแชร์ผ่าน social network และมีตัวนับไว้อยุ่ ซึ่งก็ตรงตามวิธีที่เราดูจากข้อ 4

ทีนี้มาลองดูที่เว็บใหญ่ๆอย่าง pantip กันบ้าง เพราะน่าจะมีการแชร์กันเยอะ เอากระทู้นี้ละกัน
http://pantip.com/topic/33438971  จะเห็นว่าทาง pantip ก็ติดปุ่มแชร์ facebook ไว้ ตอนนี้ก็โชว์อยู่ที่ 8 พัน
ก็เหมือนเดิม ใช้วิธีตามข้อ 4 ดูว่าจะ ตรงไหม   http://graph.facebook.com/http://pantip.com/topic/33438971
จะเห็นว่าจำนวนก็จะตรงกันอยู่นะครับ ตอนนี้ ก็ 8381 (29/3/58 เวลา 23.40 น.)

ก็ไม่มีอะไรมากครับ ใครอยากลองก้ลองเอาไปใช้ดูนะครับ ^_^

ตัวย่อ MFG,MFD,EXP, EXD, BB หรือ BBE คืออะไร

          โดยส่วนมากเวลาเราซื้ออาหาร หรือพวกเครื่องสำอางต่างๆของคุณผู้หญิงมา  เราจะดูเฉพาะ EXP/EXD เพราะมันคือวันที่หมดอายุนั่นเอง แต่รู้ไหมว่า ตัวย่อ MFD, EXP, EXD, BB หรือ BBE มันย่อมาจากอะไร



MFG/MFD   Manufacturing Date /Manufactured Date         วันที่ผลิต
EXP/ EXD   Expiry Date /Expiration Date                          วันที่หมดอายุ
BB/BBE      Best Before/Best Before End                           ควรบริโภคก่อนวันที่  

ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 194 พ.ศ.2543 เรื่องฉลากอาหาร กำหนด    ให้อาหารทุกชนิดที่ผู้ผลิตไม่ได้เป็นผู้ขายอาหารนั้นให้กับผู้บริโภคโดยตรงต้องแสดงฉลากบนภาชนะ  บรรจุโดยแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอาหารนั้น และข้อมูลที่ต้องมีคือข้อมูลความปลอดภัยที่ประกอบด้วย   วันที่ผลิต/หมดอายุ วิธีการเก็บรักษา วิธีปรุง และคำเตือนต่างๆ แต่กฎหมายเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตสามารถใช้คำว่า “หมดอายุ” หรือ “ควรบริโภคก่อน” ก็ได้ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนในความหมายของคำสองคำนี้ ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องจึงขออธิบายความหมายของคำสองคำ      นี้ก่อน

“หมดอายุ”  หมายถึง วันที่อาหารนั้นหมดอายุ หลังจากวันนั้นแล้วอาหารจะเน่าเสีย หรือบูด ห้ามรับประทาน ควรนำไปทิ้ง

“ควรบริโภคก่อน” หมายถึง อาหารจะมีรสชาติดี ยังคงคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตามที่ ระบุไว้บนฉลากอาหารจนถึงวันนั้น หลังจากวันนั้นไปรสชาติ คุณภาพและคุณค่าทางอาหารจะลดลง แต่จะไม่มีปัญหาในเชิงความปลอดภัย จึงยังสามารถบริโภคได้โดยไม่มีอันตราย แต่อาจไม่ได้ประโยชน์จากอาหารนั้นตามที่ระบุไว้บนฉลากอาหารก็ได้ และจะกำหนดวันล่วงหน้าไว้ระยะหนึ่งก่อนที่อาหารนั้นจะหมดอายุหรือเสีย

ดูให้ดีนะครับ  บางทีก็เรียง ปี เดือน วัน บางทีก็เรียง เดือน ปี วัน แล้วแต่ประเทศผลิต และที่สำคัญ เราต้องสอนเด็กๆให้รู้จักดูด้วย เพราะบางคนก็ซื้อของมาไว้ในตู้เย็น โดยบางครั้งลืมดูวันหมดอายุมัน หากบังเอิญเราเอามากิน มาใช้โดยไม่ได้ดู อาจจะท้องเสีย หรือรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้นะครับ

Promotion my by CAT ในงาน Commart!!! 19-22 มีนาคม 58

          มาถึงอีกครั้งสำหรับงาน Commart วันนี้ ขอแนะนำข่าวสาร ของ my by CAT


ซึ่งมาพร้อมสิทธิพิเศษสุดๆเฉพาะในงาน...เมื่อสมัครแพ้กเกจเสริมแบบเติมเงิน "เน็ตสุดคุ้ม 99" จำนวน 2 เดือน รับไปใช้ฟรีอีก 1 เดือน และสมัครโปรโมชั่นแบบรายเดือน "my โทร" ตั้งแต่ 350 บาทขึ้นไป รับไปเลยฟรีๆ แพ้กเกจเสริม Net Unlimited 199 บาท ให้เล่นเน็ตได้สูงสุด 1 GB +++ แล้วพบกับ my ได้ที่บูธ CAT หมายเลข G 60-61, G 67-68 บริเวณ C-Ground Zone +++ 19-22 มีนาคมนี้

ที่มา : Facebook page https://www.facebook.com/mybycat

สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2558

          สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2558
          สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ทำการเปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ภาค ก. ประจำปี 2558 โดยเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2558 ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าไปทำการสมัครได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. >> http//job3.ocsc.go.th

คุณสมบัติของผู้เข้าสอบ กพ.
           คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับผู้มีสิทธิ์ในการสมัครสอบ กพ จะต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษา หรือผู้ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2558 ในระดับ
         1. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)    
         2. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) อนุปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
         3. ระดับปริญญาตรี
         4. ระดับปริญญาโท

ขั้นตอนการสมัครสอบ ก.พ.




         1. กรอกใบสมัครสอบออนไลน์ และพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน ตังแต่วันที่ 5 – 25 มีนาคม 2558  โดยเขาที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. http//job3.ocsc.go.th
         2. ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบและเลือกศูนย์สอบ ตั้งแต่วันที่ 5-25 มีนาคม 2558
         3.ตรวจสอบสถานะการสมัครสอบ หลังชำระเงินแล้ว 2 วันทำการ
         4.พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป

ส่วน หรือรายละเอียดและเงื่อนไขอื่นๆ สามารถอ่านได้จากประกาศฉบับเต็ม คลิก

รายชื่อศูนย์สอบ  และจำนวนที่นั่งสอบ


ข้อมูลการชำระเงินล่าสุด ณ วันที่ 9 มีนาคม 2558



เงื่อนไขผลการทดสอบภาษาอังกฤษ (สามารถเอาผล TOEFL,TOEIC,IELTS,CU TEP และ TU GET ที่ยีงไม่หมดอายุ และได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50% ของของการทดสอบนั้นๆ ตามตารางยื่นได้ )


Advertisement