แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พิพิธภัณฑ์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พิพิธภัณฑ์ แสดงบทความทั้งหมด

เที่ยวปราสาทสระกำแพงใหญ่ (Prasat Sa Khamphaeng Yai)

          หลังจากครั้งที่แล้ว เดินทางไกลครั้งแรกกับรถไฟตู้นอน ชั้น 2  ไปจังหวัดศรีษะเกษนั้น ขากลับได้แวะเที่ยว ปราสาทสระกำแพงใหญ่  ส่วนใครจะเดินทางมาจากทางอื่น การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 226 ห่างจากตัวจังหวัด 26 กิโลเมตรและ ห่างจากตัวอำเภอ 2 กิโลเมตรครับ


แต่เสียดายอย่างมาก เนื่องจากขากลับมีเวลาจำกัด ได้รูปมาเพียงไม่กี่รูปเอง แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าได้จำไว้ในสมองแล้ว เรามาดูประวัติของที่นี่กัน


(ข้อมูลเกือบทั้งหมดจากป้ายด้านล่างครับ )


ปราสาทสระกำแพงใหญ่ มีลักษณะเป็นปรางค์ 3 องค์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปรางค์ประธานองค์กลางก่อด้วยศิลาทราย ส่วนปรางค์อีก 3 องค์มีขนาดเล็กกว่าก่อด้วยอิฐด้านหลังของปรางค์องค์ทิศใต้มีปรางค์ก่อด้วยอิฐอีกองค์หนึ่ง หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเช่นเดียวกัน นอกจากปรางค์ทั้งสี่องค์นี้แล้ว. ด้านหน้าของปรางค์องค์รองสององค์ มีวิหารก่อด้วยอิฐด้านละหนึ่งหลังหนันหน้าเข้าหาปรางค์ทั้งสององค์ สิ่งก่อสร้างทั้งหมดล้อมรอบด้วยระเบียคดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลงและศิลาทราย กว้าง 54 เมตร ยาว 62 เมตร มีโคปุระหรือซ้อมประตูทั้งสี่ทิศจากการขุดแต่งปราสาทแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ.2531 - 2533 ได้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก และรวมทั้งจากจารึกที่ประตูด้านทิศ่ตะวันออก ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ปราสาทสระกำแพงใหญ๋ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 ตรงกับศิลปะแบบบาปวน (ราว พ.ศ. 1550 - 1650) เพื่อเป็นเทวาลัยถวายพระศิวะตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ลัทธิไศวะนิกาย และได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัดในพุทธศาสนานิกายมหายานในพุทธศตวรรษที่ 18.


Prasat Sa Khamphaeng Yai is a Khmer sanctuare comprises of three prangs or shrine on the same pedestal oriented to the east. The middle main prang is made of sandstone while the two smaller made of bricks, which the southern one has a small brick prang behind and also faces to the east. Besides four structures that mentioned there are two Vihans made of bricks in front of two bick "Prangs" faces to the west. They are all surrounded with laterite and sandstone gallery about 54 metres width and 62 metres long. According to the Khmer inscription in the east "Gopura" which is the main entrance and ancient relic that found in this area can be dated that this monument was constructed in 11th century A.D. in the Baphoun style in order to present to god Shiva of Hinduism Shivate. Later in 13th century A.D. It had been converted into a temple of Bhuddism Mahayana Sect.






 



พิพิธภัณฑ์จันเสน

     เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวจ.ลพบุรี รวมทั้งยังมีโอกาสแวะเที่ยวในหลายๆสถานที่ หนึ่งในนั้นคือ "พิพิธภัณฑ์จันเสน" หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อไม่รู้จัก เช่นเดียวกับผู้เขียน แต่เมื่อได้ไปแล้วรู้สึกว่าชอบและประทับใจ การเดินทางอาจจะลำบากสักหน่อยเนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวติดคลองชลประทาน ซึ่งเป็นหลุมและช่องทางวิ่งแคบ แต่รถวิ่งได้สะดวกเพราะไม่ใช่ถนนสายหลัก เส้นทางที่ผู้เขียนใช้ในการเดินทางไปวันนั้นคือ จากกรุงเทพฯประตู้น้ำพระอินทร์ เข้าถนนเอเซีย พอถึงอ่างทองเลี้ยวซ้ายเพื่อข้ามสะพานมาขวา ไปตามป้ายลพบุรี เมื่อข้ามสะพานกลับมาขวา แล้วตรงไปประมาณ 9 กิโลเมตร ถึงคลองชลประทาน วิ่งเลียบคลองไปประมาณ 44 กิโลเมตร ถึงลพบุรีเลียบต่อไปถึงบ้านหมี่ ต่อไปยังจันเสนไปสะดวก แต่ถนนคดโค้งไปตามคัดคลองชลประทาน (ใครสนใจศึกษาเส้นทางเพิ่มเติมนะครับ)









Advertisement