แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ LIFESTYLE แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ LIFESTYLE แสดงบทความทั้งหมด

หนังสือพิมพ์แจกฟรีในกรุงเทพ ฯ (Free Copy Magazines)

          ทุกวันนี้ในปี พ.ศ. 2560 หรือปี ค.ศ.2017 โลกที่ทุกคนจับจ้องมองจอกับสื่อดิจิทัลผ่านมือถือหลากหลาย หรือแท็บเล็ต มากขนาดหลากหลายรุ่น แต่ถ้าใครที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเช่น BTS, Airport Rail Link (ARL), MRT และรวมถึงสถานที่จุดจอดรถประจำทางใหญ่ๆที่ผู้คนพลุกพล่าน ทุกเช้า จันทร์- ศุกร์  เราจะเห็นพนักงาน ผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง มาคอยยืนแจกหนังสือพิมพ์รายวันบ้าง รายสัปดาห์บ้าง และยังมีหนังสือพิมพ์อีกหลายสำนักพิมพ์ ที่ทำออกมาแจกฟรีๆ เช่น M2F, new108, BLT, a day BULLETIN เป็นต้น ให้อ่านกัน เป็น Free Copy Magazines ทำให้ชาวกรุงเทพ ฯ หลายคน ได้ติดตามข่าวสารในแต่ละวัน เพราะเชื่อว่าบางท่านก็ยังชื่นชอบการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์จากกระดาษมากกว่า 






ถึงแม้ว่าบางเล่มจะมีโฆษณามากเกินไปนิดในบางฉบับ แต่นั่นแหละ ถ้าไม่มีโฆษณาเหล่านั้น เราก็ไม่มีให้อ่านกันฟรีๆ ถือว่าสมเหตุสมผล

ยังนึกเสียดายว่า ถ้ามีแจกตามจุดต่างๆ เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ คนที่อาศัยในกรุงเทพฯ คงมีอีกไม่น้อย ที่อยากจะมีหนังสือพิพ์ดีๆ อ่านทุกเช้าก่อนทำงาน

สมุดเงินออมปี 2559 (Saving 2016)

         เริ่มปีใหม่ สิ่งที่หลายคนจะทำก็คือการวางแผนการใช้เงิน ทั้งเงินโบนัส และเงินเดือน วันนี้ก็เลยมี สมุดบัญชี รายรับ - รายจ่าย ส่วนบุคคล ปี 2559 หรือ สมุดเงินออมปี 2559  ที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยทำออกมาแจกทุกปี สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่     โดยเป็น excel ไฟล์ครับ ใช้งานง่าย
         



หรือใครชอบของธนาคารกสิกร เจ้านี้เค้าก็ทำมาให้ทุกปีครับ ทั้งแบบ Offline เป็น excel หรือแบบ online สามารถเข้าโหลดได้ที่ >>>

https://k-expert.askkbank.com/DIYTools/Pages/K-ExpertSavingMemo.aspx

โดยจะมีให้เลือกตามการใช้งาน 2 แบบ
K-Expert Saving Memo (Excel Version)
K-Expert Saving Memo (Online Version)



หรือหากยังไม่ถูกใจก็สามารถหา Application ต่างทั้งใน Android หรือ iOS โดยลองพิมพ์พวกคำว่า saving หรือสมุดออม ลองดูครับ "อย่าลืมว่า การออมเงิน การวางแผนการเงิน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ครับ"

คาถาบูชาหลวงพ่อพระสายน์ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร

          วันหยุดที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ซึ่งเดินทางไปง่าย หากนั่งรถไฟฟ้า BTS ก็ลงที่สถานีสยาม เดินไปอีกนิคก็จะถึงวัดแล้ว  ได้เข้าไปไหว้  “พระสายน์” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของวัดปทุมวนาราม  โดยข้อมูลที่รู้คร่าวๆ ทราบว่า เป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากเมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง ในสมัยรัชกาลที่ 4




คาถาบูชาหลวงพ่อพระสายน์

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)
เสยยะพุทธะปฏิมากะรัง    อะหังวันทามิ  สัพพะทา
นะมะการานุภาเวนะ         นิททุกโข นุรุปัททะโว
สอทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง    สิทธิการิยะตะถาคะโต
สิทธิเตโช ชะโย นิจจัง     สิทธิลาโภ นิรันตะรัง
สัพพะกัมมัง ปะสิทธิเม     สัพพะสิทธิ ภะวันต เม ฯ




 

ลานเบียร์ Central World 2015-2016

ตารางลานเบียร์ Central World 2015-2016

ข้อมูลอัพเดทล่าสุด ณ 3 พ.ย.58

ลาน Chang Live Park & Change Livestyle Lounge

Chang Live Park

5 พ.ย. 58    Spice UP The Night by Spicydisc
10 พ.ย.58   Da Endophine
17 พ.ย.58   Stamp แสตมป์ อภิวัชร์
19  พ.ย.58  Duck Night Party by What The Duck
24  พ.ย.58  BEC Tero Presents Slot Machine,60 Miles,Better Weather
26  พ.ย.58  นิว  จิ๋ว
1 ธ.ค.58     Paradox
3 ธ.ค.58     ยำใหญ่ (2)by Smallroom
8 ธ.ค.58     Instinct
10 ธ.ค.58   Potato
15 ธ.ค.58   ตู่ ภพธร + Triumphs Kingdom
17 ธ.ค.58   Joey Boy + สิงห์เหนือ เสือใต้
29 ธ.ค.58   เจนนิเฟอร์ คิ้ม และ โก้ มิเตอร์แซกแมน
31 ธ.ค.58   Frure 

Change Livestyle Lounge

4 พ.ย. 58   ป๊อบ ปองกูล
11 พ.ย.58   Pause Feat. คิว ฟลัวร์ ,มาเรียม
17 พ.ย.58   Stamp แสตมป์ อภิวัชร์
18  พ.ย.58  Lipta
25  พ.ย.58  Sky DJ (DJ ฟ้าใส + DJ Roxy june)
2 ธ.ค.58     พิจิตา + แพรว คณิตกุล
9 ธ.ค.58    แป้งโกะ + โอปอ
16 ธ.ค.58  สิงโต นำโชค
15 ธ.ค.58  ตู่ ภพธร + Triumphs Kingdom
23 ธ.ค.58  DJ SPYDAMONKEE, What dat frog and jedie
31 ธ.ค.58   Room 39



ลานเบียร์สิงห์
 5 พ.ย.58       Apartment คุณป้า
10 พ.ย.58    กะลา
12 พ.ย.58    แหนม รณเดช + อี๊ฟ ศิระฉายา
17 พ.ย.58    บอย พิษณุ + Nicole
19 พ.ย.58     Blcakhead
24 พ.ย.58     Nop Ponchamni
26 พ.ย.58     etc.
1 ธ.ค.58       อาคม
3 ธ.ค.58       Mild
8 ธ.ค.58       Zeal
12 ธ.ค.58     สุนทราภรณ์
14 ธ.ค.58     Jetset'er
18 ธ.ค.58     Jennie Tong
22 ธ.ค.58     Tatto Colour
24 ธ.ค.58     Cocktail + Super Smile
26 ธ.ค.58     Tabasco
28 ธ.ค.58     ปู พงษ์สิทธิ์29 ธ.ค.58     Silly Fools
31 ธ.ค.58     Lomosonic / แสตมป์

ที่มารูป : fanpage FB :MySinghaClub

ลาน Hineken
5 พ.ย.58 Scrub
11 พ.ย.58 GETSUNOVA
12 พ.ย.58  THE PAKINSON
25 พ.ย.58 FLURE
3 ธ.ค.58 STAMP
8 ธ.ค.58 LIPTA
22 ธ.ค.58 MUSKETEERS   


แผนก HR ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

           HRD หรือฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ย่อมาจากคำว่า Human Resource Development     หมายถึง  การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นการเพิ่มพูนคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวมนุษย์  โดยใช้กลวิธีต่าง ๆ  เช่น  ฝึกอบรม,ปฏิบัติการ,ศึกษาดูงาน  บางบริษัทก็จะอยู่ในส่วนของ HRM (Human Resource Management หมายถึง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสถานประกอบการ) แต่ส่วนมากพนักงานอย่างเราๆ ก็จะเรียกเหมาๆ รวมกันว่า  ฝ่ายบุคคล
          แผนก HR ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะถ้านึกถึงฝ่ายนี้ หรือแผนกนี้ ไม่ว่าในบริษัทนั้นๆจะเรียกว่าอย่างไร ส่วนมากพนักงานเมื่อเข้าไปแล้ว จะไม่ค่อยอยากเข้าไป หรือยุงเกี่ยว 55 ทำไมนะหรือครับ มาดูเหตุผลกัน

1.กลัวประเมินผลทดลองงาน เพราะหลังจากรับเราเข้ามาทำงานแล้ว อบรมเบื้องต้นแล้ว ฝ่ายหรือแผนกนี้ ก็จะมีผลกับเราอีกครั้งตอนประเมินการทดลองงาน อาจจะ 3 เดือน 6 เดือน เราก็ต้องกลับไปเจอแผนกนี้อีกแน่นอน ไม่ว่าจะผ่านการทดลองงานหรือไม่ผ่าน เพื่อตกลงเงินเดือนใหม่ หรือเซ็นต์สัญญากันใหม่หลังจากผ่านช่วงเวลาทดลองงาน คนที่ผ่านก็คงไม่ตื่นเต้น แต่ส่วนมากกก็จะหวั่นๆกันทั้งนั้นก่อนเข้าฟังผล
 2.เข้าแผนกนี้โดนโทษทางวินัยแน่ๆ หลังจากเราผ่านการทำงานแล้ว เมื่อทำงานไปได้สักพัก เราก็คงไม่ได้ทำตามกฎ ระเบียบบริษัทได้ทั้ง 100% บางครั้งอาจจะทำผิดกฎขั้นรุนแรงของบริษัท หรือองค์กรนั้นๆ ก็จะเป็นแผนกนี้ที่เรียกไปตักเตือน หรือหนักหน่อยก็ พักงาน หักเงินเดือน หรือร้ายที่สุดก็คือ ให้ออกไปหางานใหม่

3.หนังสือจากฝ่ายบุคคลมาต้องอบรมอีกละ  บางองค์กรฝ่ายทรัพยากรบุคลนี้จะรวมทั้งหมด ตั้งแต่รับสมัคร ฝึกอบรม ประเมินผลประจำปี และอื่นๆอีกมาก การฝึกอบรมนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พนักงานบางคน เบื่อ หรือไม่ชอบ พอได้รับหนังสือ หรือคำสั่งให้ฝึกอบรมก็ทำท่าเบื่อ เพราะบางหลักสูตรอาจจะเรียนมาแล้ว มี Skill เป็นชั้นดีแล้ว แต่มาจากที่อื่น มาที่ใหม่ต้องอบรมอีก แบบนี้ก็เลยทำให้บางคนเบื่อไปตามๆกัน

4.เงินเดือนไม่ขึ้น โบนัสไม่ได้ ฝ่ายบุคคลแน่  จริงๆการประเมินผลประจำปีต่างๆ ก็ต้องผ่านหลายขั้นตอนในการประเมิน ทั้งหัวหน้าของเราประเมินณการทำงานเราทั้งปี การขาดลา มาสาย มีผลต่อคะแนนการประเมิณทั้งนั้น แต่พอสิ้นปีมาได้โบนัสน้อย เงินเดือนขึ้นน้อย สิ่งหนึ่งที่พนักงานจะโทษก่อนก็คือฝ่ายบุคคล 55

          นี่แค่ส่วนหนึ่งที่เราพนักงานมองไปที่ฝ่าย HR กันว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่อาจจะไม่ได้มองมองแบบนี้ทุกคนเป็นแค่ความรู้สึก และความเห็นส่วนตัวครับ

คู่มือ (Manual) ใครคิดว่าไม่สำคัญ

          ต้องยอมรับว่าเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบอ่านคู่มือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื้่องใช้ไฟฟ้า , อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ  เช่นซื้อมือถือมาพอแกะกล่องก้จัดการเล่นซะก่อน เล่นๆไป อ้าวเข้าโหมดนี่ โหมดนั่นไม่ได้ นั่นแหละ จึงจะหยิบคู่มือขึ้นมาอ่าน
         จริงๆคู่มือนี่มันเข้ามามีบทบาทกับเราตั้งแต่ย่างเข้าชั้นเรียน (จริงๆมันตั้งแต่เด็กแหละครับ เพราะเกิดมาพ่อแม่ก็มีคู่มือเลี้ยงเรามาจากดรงพยาบาล 55 ) คู่มือนักเรียน ก็ใช้สำหรับกฎ ระเบียบ การลงละเทียน และอื่นๆอีกมากมาย ทุกระดับตั้งแต่อนุบาล - ปริญญาเอกก็เถอะ เชื่อว่าต้องมีคู่มือ นักเรียน/นักศึกษากันทุกคน
          จบเรียนจบจบพอมาเข้าทำงาน วันแรกก็เจอคู่มือพนักงาน คู่มืองานสำนักงานได้แก่ คู่มือบุคลากร คู่มือการปฏิบัติงาน คู่มือการปฏิบัติเฉพาะอย่าง คู่มือการทำโครงการ ฯลฯ ตลอดจนคู่มือการใช้เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ คู่มือพวก ISO ต่างๆที่บริษัทนั้นๆได้รับ และอีกเยอะแยะ

 
          แต่มันจะมีประโยชน์มากๆ ตอนที่อุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ มันเสีย หรือไม่ก็อุปกรณ์นั้นๆ เราใช้งานไม่เป็น แต่บางทีคู่มือก็เขียนอะไรที่ทำให้เรางงได้ หลายคน คงคิดว่าการใช้คู่มือมันเป็นเรื่องไม่สำคัญ และไม่น่าสนใจ  ..ความจริงแล้วมันสำคัญ แต่กลับไม่สนใจ จนกว่าจะเกิด "ปัญหา" แล้ว จึงจะกลับมาสนใจ เราจึงลองมาดูว่า ทำไมพนักงานอย่างเราๆ หรือคนทั่วไป จึงไม่ชอบอ่านคู่มือกัน
  1. ระบบการจัดเก็บคู่มือ หลังจากเปิดกล่องเอาของใช้ออกมาแล้ว คู่มือก็โดนยัดกลับเข้าไปไว้ในกล่องอีกครั้ง เช่นซื้อทีวีมาเครื่องหนึ่ง หรือดทรศัพท์มาเครื่องหนึ่ง เราๆ ท่านๆ ส่วนมากก้จะคิดว่าใช้เป้นอยู่แล้ว คู่มือไม่ต้องอ่านหรอก เก็บใส่ลังไว้ แล้วก็ไปอยู่ตามซอก เผลอพอรถรับซื้อของเก่าผ่านมา มันก็โดนขายไปพร้อมกล่องนั้นแล้ว
  2. คู่มือของข้าใครอย่าแตะ ส่วนมากเหตุการณ์นี้จะเจอในสำนักงาน ประมาณว่าคู่มือโดนเก็บรักษาไว้ในตู้ใส่กุญแจแน่นหนาโดยธุรการแผนก หรือผู้ที่รับมอบมา เมื่อคนอื่นจะหยิบมาอ่าน หรือหยิบมาศึกษาเมื่อเกิดเหตุการณืจำเป็นก็ไม่สามารถเอามาใช้งานได้
     
  3. รูปเล่มของคู่มือ คุ่มือบางอย่างก็หนาเตอะเกินไป จะหยิบเปิดดูที หรือเอากลับไปบ้านเพื่อศึกษาก็พกพาลำบาก ใครๆก็เลยไม่อยากจะหยิบมันมาอ่าน บางที่ก็เป็นเอกสารใส่แฟ้มที่ไม่สามารถแยกเอาออกมาได้ 


  4. คู่มือภาษาอังกฤษล้วน  อุปกรณ์บางอย่างก็มีเฉพาะภาษาอังกฤษล้วน ไม่มีภาษาไทยมาให้อ่าน บางเล่มภาษาอังกฤษอย่างเดียวไม่พอ ยังเป็นศัพทย์เฉพาะทาง เช่นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสำนักงาน ต้องให้ผู้ที่เชี่ยวชาญทำการแปลเป็นคู่มือภาาาไทยอีกรอบจึงจะอ่านกันเข้าใจ นี่ก็ทำให้คนไม่อยากจะอ่านคู่มือด้วยเช่นกัน

  5. คู่มือเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ พวก PDF / Word จะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้หลายๆยี่ห้อที่ขายอุปกรณ์ละจดต้นทุนทางด้านกระดาษลง แล้วยัดคู่มือมาให้เราเป็นแผ่น CD/DVD แผ่นหนึ่ง ทีนี้ถึงเราจะมีคอมพิวเตอร์กันใช้ส่วนตัวหรือทำงานก็แล้วแต่ ก้จะไม่ค่อยเอามา copy ไว้ดูหรืออ่านกันมากนัก หรือ copy กันไว้แต่มันก้ยังอยุ่ในเครื่องเหมือนเดิมนั่นแหละ 55 แล้วอีกอย่าง เดี๋ยวนี้ Notebook รุ่นใหม่ๆ ก็ไม่มี CD/DVD drive มาแล้ว ทีนี้หากเราได้เป็น CD คู่มือมาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ส่วนมากก็เหมือนข้อ 1 ครับ ยัดลงกล่องไว้
  6. คู่มือไม่ทันสมัย/ไม่เป็นปัจจุบัน  ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างสมาร์ทโฟนที่เราใช้ๆกัน เช่นพวก Android os ตอนออกมาใหม่ๆ เครื่องมากับ Android เวอร์ชั่นหนึ่ง แต่สักพักก็ได้ update เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง หน้าตาก็อาจจะเปลี่ยนไปในส่วนของโปรแกรมในเครื่อง (ถึงแม้จะคล้ายๆกัน) แต่บางครั้งผู้ใช้บางคนก็อ่านแล้วก็จะไม่เข้าใจในคู่มือนั้นแล้ว

    นี่ก็เป็นบางส่วนนะครับสำหรับเรื่องคู่มือ อย่าลืมว่าคู่มือต่างๆมีความสำคัญ อย่างน้อยเราก็ควรหยิบมันขึ้นมาอ่านก่อนใช้อุปกรณ์นั้นๆ หรือในการทำงานต่างๆ เราหยิบขึ้นมาศึกาาก่อน มันก็ทำให้เราทำงานผิดพลากลดน้อยลงครับ ^_^

ตลาดนัดมือสอง ณ Watergate Pavillion ประตูน้ำ (คลองถม ประตูน้ำ)

          หลังจากคลองถมเดิม ถูกจัดระเบียบไป ก็ไม่ได้ไปเดินเที่ยวหาซื้อเก่าเก่าๆมานานละ แต่วันนี้พอดีผ่าน ตรงข้างห้าง  Watergate Pavillion ประตูน้ำ มีตลาดขายของเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ ตลาดเริ่มเปิดขายของแล้ว สไตล์การขายแบบคลองถม  ลองถามพ่อค้าแม่ค้า ทราบว่า ของวันศุกร์จะเริ่มมาวางตอนเที่ยงๆ

ของส่วนมาก จากที่สังเกตุยังไม่ค่อยมีของแปลกๆ ก็จะเป็นพวกอุปกรณ์ไฟฟ้า สายชาร์ต ดทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ เกือบทุกร้าน







ร้านไหนมีของมาลง ก็จะโดนเรียกความสนใจจากนักช้อปไปมุงดู  55


สามชิ้นนี้ ได้มาราคา 100 บาทพอดีไม่ต้องต่อ 55
 

แต่ส่วนตัวผมชอบ 2 สิ่งนี้มาก กะว่าจะเอามาฟังเทปเก่าๆที่ห้อง แต่เสียดายเจ้าซาวน์อเบาท์ คงแ่ตามอายุ สายพานมันขาดแล้ว ไม่รู้จะหาเปลี่ยนที่ไหน ก็คงต้องปล่อย แล้วฟังแต่ AM FM



ตอนนี้ก็ยังไม่ครึกครื้นเท่าที่ควร อาจจะเพราะพึ่งเปิด แล้วคนยังไม่รู้ หรือพ่อค้าแม่ค้ายังไม่รู้จักที่ กลัวมาวางแล้วขายไปได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ ถ้าใครไปไม่ถูกลองดูตามแผนที่



เราหยดเหรียญตู้โทรศัพท์สาธารณะครั้งสุดท้ายเมื่อไร (payphone)

          "เราหยดเหรียญตู้โทรศัพท์สาธารณะครั้งสุดท้ายเมื่อไร"  คำถามนี้เคยลองถามเพื่อนๆในกลุ่มด้วยกัน บางคนจำไม่ได้ บางคนโตมาก็ใช้มือถือเลย แต่ ความคลาสลิคของตู้โทรศัพท์สาธารณะ มันมีอะไรหลายๆอย่าง เช่น  บางทีมันก็ลุ้นว่าเงินจะหมดเมื่อไร  วิตกกังวลไปอีกแบบ ส่วนสมัยนี้ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็เช่น


- ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน หรือโทรศัพท์หาย

- มือถือตัวดี ก็รู้ๆอยู่ว่าสมาร์ทโฟนสมัยนี้มันสูบแบตมากแค่ไหน ถ้าวันไหนลืมชาร์ตไป หรือลืมพก Power bank ไป ถ้ามีธุระฉุกเฉินมันก็เป็นตัวช่วยตัวหนึ่ง


- ตังค์มือถือหมด หาที่เติมไม่ได้ (สำหรับคนที่ใช้แบบเติมเงิน) 


- สัญญาณโทรศัพท์เป็นอะไรไม่รู้ เลยต้องโทรตู้ อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้าแถวไหนคนใช้เยอะ เช่นช่วงรับปริญญา มือถือเป็นง่อยไปซะงั้น


          และอื่นๆ อีกหลายเหตุของแต่ละคน  เคยอ่านเจอในหนังสือ หรืออินเตอร์เน็ตที่ไหนสักที่ เขาบอกว่า ประเทศญี่ปุ่นมีตู้โทรศัพท์สาธารณะเกือบทุกแห่งและส่งเสริมให้ประชาชนใช้  ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเคยเจอภัยพิบัติและเห็น ความสำคัญของระบบพื้นฐานที่จำเป็น ส่วนประเทศไทย เรายังให้ความสำคัญน้อยไปนิดนึง จึงมองเห็นตู้โทรศัพท์สาธารณะโดนเพิกเฉย บางตู้ก็พัง บางตู้ก็ไม่มีหู หยอดเหรีญไม่ได้ หยอดได้แต่กินเหรียญ 55 อยากให้ช่วยกันดูแลมันไว้ ถึงแม้วันนี้เราอาจจะไม่ได้ใช้มัน แต่ไม่แน่ เจ้าตู้นี้อาจจะเป็นสิ่งช่วยเรายามคับขันได้นะครับ

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน มาติดอาวุธลับ อัพเกรดให้เถ้าแก่ใหม่กัน (New boss)

          เจ้าของกิจการที่เริ่มลงมือลุยไปบ้างแล้ว หรือเจ้าของกิจการที่มีชั่วโมงบินสูงระดับหนึ่ง อาจถึงคราวต้องติดอาวุธลับเพื่อให้ธุรกิจสร้างผลกำไรแบบเติบโต ยั่งยืน และมั่นคง ต่อไปนี้จะเป็นคำแนะนำเพื่อให้คุณติดอาวุธลับเพื่อก้าวไปถึงเป้าหมายให้ได้


1.คนที่มีพรสวรรค์ก็ลุยต่อไปได้เลย ส่วนคนที่มีพรแสวง ต้องแสวงหาโอกาส นำสิ่งที่เรียนมาหรือที่เราทำมาสามารถมาประยุกต์ ใช้ได้ วิเคราะห์จุดอ่อนแข็งของตัวเอง และอย่าลืมวิเคราะห์ตลาด ไปเรื่อยๆ

2.ทิ้งการมีทัศนคติแย่ๆ ไปซะ ถ้ามองว่าแย่ก็แย่ มองว่าดีหรือแง่บวกก็ดีหมด

3.ต้องตามให้ทันโลก อย่างกระแสโซเชี่ยล ต้องค้นคว้า เปิดหูเปิดตา อยู่ตลอด

4.วางเป้าหมาย ทำให้ได้ตามเป้าหมาย ทีละสเต็ปก็ถือว่า ประสบความสำเร็จได้แล้ว

5.มองโลกแง่บวก และอย่าเบื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เปิดหูเปิดตามองโลกกว้าง พร้อมความกระตือรือล้นในการเรียนรู้

6.สนุกกับการตามโลกให้ทัน รู้จักใช้ช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายกำลังสนใจ เช่น สมัยนี้คนสนใจโซเชี่ยลมีเดีย ก็ใช้โปรโมท หรือทำการตลาดให้ธุรกิจ

7.ไม่ยึดขนาดของธุรกิจเป็นความสำเร็จ ทำตามกำลังของตัวเอง แม้ธุรกิจจะเล็กลงกว่าเดิม แต่มีความสุขในการทำงานและกิจการมั่นคงกว่าเดิม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จและน่าพอใจแล้ว

8.เรียนรู้และเข้าใจธุรกิจที่ทำ มองข้อดีข้อเสียของมันให้ออกและเก็บข้อดีอะไรไว้ ปรับปรุงข้อเสียข้อไหนบ้าง

9.ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะ พ่อแม่ จะมีพลังเสริมที่แอบแฝง จะมีพลังบุญหนุนให้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

10.    เปิดโลกตัวเองให้กว้าง ขยันฟัง ขยันอ่าน ขยันคุยกับคนที่เอาประสบความสำเร็จ ทางเลือกมีมากมาย เช่น ปัจจุบันมีหนังสือของคนที่เป็นกูรูด้านต่างๆที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ออกวางขายมากมาย

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน กลเม็ดเด็ดหัวใจทีมงาน ส่วนผสมให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

          หากคุณต้องการประกอบกิจการส่วนตัว คงไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีผู้ช่วย หรือทีมงานไม่ว่าจะเป็นทีมเล็ก หรือทีมขนาดใหญ่ บรรดาทีมงานเหล่านี้ คุณอาจจะเรียกเขาว่า ลูกน้อง ลูกจ้าง คนงาน ก็แล้วแต่ ซึ่งพวกเขาก็คือ ฟันเฟืองสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย เราขอเปิดเผยกลเม็ดเคล็ดลับที่จะเด็ดหัวใจทีมงาน เพื่อให้คุณได้นำไปใช้งานจริง

          1.รักคนรอบข้างโดยเฉพาะลูกน้อง ยิ่งเป็นงานบริการ เราต้องใช้คนเป็นหลัก ถ้าเราไม่รักลูกน้องก็ไม่รู้จะไปรักใคร รักคนที่ทำงานกับเรา เพราะคนที่ทำงานกับเราถ้าเราให้ใจเขา เขาก็จะให้ใจเรา แล้วเขาจะถูกปลูกฝังว่า ทำไมเขาต้องทำดีกับแบรนด์เรา เขาจะมีผลประโยชน์อะไรในอนาคตบ้าง เช่น เป็นหุ้นส่วน ช่วยดูแลกิจการให้เรา หรือผลตอบแทนต่างๆ ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น

          2.ควรทำงานเป็นทีม และมีคนคอยช่วยทำ ให้ลูกน้องได้ทำในสิ่งที่เขาถนัด

          3.มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเป็นกันเองกับทีมงานทุกระดับชั้น

          4.เป็นที่พึ่งให้ผู้อื่น ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้แต่ขึ้นอยู่กับเครื่องมือควบคุมความรู้ คือ คุณธรรม คนเก่งที่อยู่ในองค์กรจึงต้องมีคุณธรรมควบคู่กับความรู้

          5.แบ่งปันให้ใครได้บ้าง การแบ่งปันนี้ไม่จำกัดเพียงทรัพย์สินเงินทอง แต่รวมถึงความรัก และความรู้ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

          6.มีสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ข้อดีคืออาจได้แลกเปลี่ยนไอเดีย หรือช่วยเหลือกันในอนาคต

          7.มอบโอกาสดีๆ ที่เคยได้รับส่งต่อให้ผู้ที่ด้อยโอกาส เช่น สนับสนุนการศึกษาของพนักงานในบริษัท

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 9 วิธีเอาตัวรอด เมื่อเถ้าแก่ต้องเป็นหนี้

          หลายๆ ครั้งที่การทำธุรกิจ อาจไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เมื่อไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก การดำเนินกิจการ ต้องประสบกับภาวะขาดทุน มีภาระหนี้สินบวกกับดอกเบี้ยที่พอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลองศึกษาวิธีเหล่านี้ที่จะแนะนำให้ท่านแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้เอาตัวรอดต่อไปได้



1.เมื่อธุรกิจเป็นหนี้ ให้ใช้วิธีเคลียร์เจ้าหนี้ ค่อยๆ ทยอยจ่าย หากต้องตัดใจขาย ไม่ยอมเสียสิ่งที่เชื่อว่าจะสร้างเงินได้ในอนาคต คือ เครื่องมือทำมาหากิน อาทิ คอนโดที่มีคนเช่าอยู่ โรงงานผลิตสินค้า หรืออพาร์ตเม้นท์

2.พยายามปรับตัว ใช้ชีวิตให้เข้ากับภาวะทรัพย์สินในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

3.บอกตัวเองเสมอว่าต้องสู้ ต้องทำได้ ต้องอยู่รอด

4.ถ้าคุณต้องเข้ามาสานต่อธุรกิจที่เป็นหนี้สิน ขอแนะนำว่าควรจะเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ รวมทั้งไตร่ตรองคิดหาวิธีหาเงินมาใช้หนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าหนี้ว่า ธุรกิจของคุณยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งนี้ต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบว่า อะไรควรต้องสะสางก่อนและหลัง รู้จักเรียงลำดับความสำคัญ

5.ไม่กลัวหรือเครียดกับปัญหา แต่ให้รู้สึกท้าทายและสนุกกับมัน รู้จักพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส นำความสูญเสียมาเป็นพลังในการเดินหน้าต่อไป

6.    มองและแยกปัญหาทีละส่วน อย่าเอาปัญหาทุกอย่างมารวมกัน ค่อยๆแก้ปัญหาทีละเปลาะ ทีละเรื่องอย่างมีสติ เช่น ปัญหาครอบครัว สุขภาพ การเงิน

7.เลือกมองด้านบวกของชีวิต ทำเพื่อคนที่เรารัก คนที่สร้างพลังบวกให้ชีวิต เช่น ลูก พ่อแม่ สามี ภรรยา เพื่อทำให้เกิดแรงบันดาลใจ และเกิดพลังในการต่อสู้

8.ปรับกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่นการทำธุรกิจส่งออก ต้องปรับให้เกิดความสมดุล เช่น ลดการนำเข้าหันมาหาแหล่งผลิตในประเทศ พร้อมกับเริ่มตั้งหน่วยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะงานด้านออกแบบต้องแตกต่างและมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ไม่เหมือนใครเป็นการวางแผนระยะยาว

9.มองโลกในแง่บวกและมองว่าทุกอย่างเป็นการเรียนรู้ เราควรจะเรียนรู้ให้มากที่สุด ถ้าเราไปอยู่ในที่ที่แย่มาก เราจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้น ดูให้ลึก ดูให้เรียนรู้

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 7 หนทาง วางแผนธุรกิจใหม่ ให้เติบโต

          การวางแผนธุรกิจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เจริญก้าวหน้าได้ ซึ่งหากคุณมีทุนมากพอก็ควรจะจ้างทีมการตลาดที่มีประสิทธิภาพ แต่หากเป็นธุรกิจ SMEs ลองอ่านแนวทางหลักๆ เหล่านี้ดูก่อน เพื่อเป็นไอเดียว่าจะบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างไร ข้อดีคือ คุณจะประหยัดงบการตลาดได้สบายๆ เลยล่ะ


1.การทำธุรกิจต้องมีการวางแผนที่ดี เช่น เดือนแรกถึงเดือนที่3 คุณมีเวลาให้ธุรกิจตัวนี้เท่าไร มีแรงซัพพอร์ตเท่าไร และจะได้เงินเท่าไร รวมทั้งต้องมีความตั้งใจและความรักในสิ่งที่ทำ เพียงเท่านี้ธุรกิจก็จะบรรลุเป้าหมาย

2.การวาง concept สำหรับทำธุรกิจ มีเรื่องสำคัญๆ 3 ข้อใหญ่ ข้อหนึ่ง brand concept ต้องมีแบรนด์ที่ชัด ว่าต้องการให้ลูกค้าและคนเขามองว่า เราเป็นอย่างไร ข้อสอง product concept ผลิตภัณฑ์ต้องมีเอกลักษณ์ อาทิ การจัดอาหารในจานที่ไม่เหมือนร้านอาหารอื่น หรือร้านกาแฟที่ส่งกลิ่นหอม ดึงดูดผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพื่อให้คนจำได้ ข้อสาม shop concept สไตล์ของร้านต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น ซึ่งหากมีการขยายร้านก็ยังใช้สไตล์เดิม หรือใกล้เคียงของเดิม

3.มีแผนการลงทุน หรือแผนการตลาดรองรับหลายๆ แผน หากแผนแรกไม่สำเร็จก็ยังมีแผนอื่นสำรองให้ได้เลือกใช้ ซึ่งควรจัดระบบให้เหมาะสมกับองค์กรของเรา

4.การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่มีดีไซน์ ฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้คนจดจำ

5.รู้จักประยุกต์ความรู้หลายๆด้าน เข้ากับธุรกิจของตัวเอง ข้อนี้ ทีมงานที่มีความสามารถในด้านนั้นๆ จะช่วยคุณได้

6.มององค์รวมในการบริหารธุรกิจของตัวเอง หากธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับส่วนอื่น เช่น จังหวัด ประเทศ โลก ให้มองภาพขององค์รวมให้ออก เพื่อการต่อยอด เช่น หากผลิตภัณฑ์ของคุณเข้ากับนโยบายที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมอยู่ ก็ควรติดต่อเพื่อขอเข้าร่วมโครงการ

7.บริษัทต้องมีรายได้แบบพอเพียง เพื่อขยายกิจการและดำเนินธุรกิจได้แบบยั่งยืน การควบคุม และดูแลรายรับ รายจ่าย ด้วยตนเองก็เป็นส่วนสำคัญ

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 7 ข้อ ปลุกเร้ากำลังใจ สร้างแรงฮึดเป็นเถ้าแก่กับเขาซะที

การเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้แรงกาย แรงใจ และแรงฮึดอย่างยิ่งยวด เพราะนอกจากจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองแล้ว ยังต้องเสี่ยงกับการลงทุนเงิน เวลา และโอกาส อีกด้วย เรามี 7 ข้อ เพื่อปลุกเร้าไฟฝันของคุณให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาอีกครั้ง

1.ฝันให้ไกล และต้อง ไปให้ถึง อย่ารีรอที่จะทำตามความฝันของตัวเอง ด้วยการเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้

2.ทำธุรกิจไม่มีคำว่าพร้อม100% หรอก เพียงแต่ตั้งหลักให้ดี ตั้งหลักให้มั่น อาจมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็จะผ่านไปได้เอง

3.มีหลักธรรมข้อใดข้อหนึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เพื่อให้เกิดพลังและสติปัญญา

4.ทำทุกอย่างที่เป็นหนทางหาเลี้ยงชีพโดยสุจริต และไม่รอให้โอกาสมาถึง ต้องเป็นฝ่ายวิ่งไปหาโอกาส ไม่เอาเวลามานั่งท้อแท้จนเสียพลังงานด้านบวก

5.รู้จักมองหากำลังใจหรือแรงบันดาลใจจากสิ่งใกล้ตัวในเวลาที่ท้อแท้ เพื่อให้เกิดแรงฮึดสู้ลุกขึ้นเดินต่อไป

6.เรียนรู้จากประสบการณ์ ที่ผ่านมา เก็บสิ่งดีๆ และไม่ดีไว้คอยเตือนใจอยู่ตัวเองอยู่เสมอ

7.อุปสรรคของการเริ่มต้นทำธุรกิจ คือ ความกลัว เราต้องกล้า บางขณะนั้นก็สองจิตสองใจ คิดต่อต้านในตัว ทะเลาะกับตัวเอง

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 6 เคล็ดลับเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ SMEs

          ปัจจุบัน ธุรกิจ SMEs หรือ ธุรกิจขนาดย่อม กำลังเผชิญกับมรสุมเศรษฐกิจฝืดเคือง จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดกับคลื่นมรสุมครั้งนี้ไปให้ได้ หากคุณกำลังคิดจะเปิดกิจการของตัวเอง หรือมีกิจการอยู่แล้วต้องการปรับตัว เรามีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำ




1.    รู้จักคิดพลิกแพลงวัตถุดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจของเรา เช่น นำสินค้าราคาถูกมาแปรรูปให้กลายเป็นสินค้าราคาแพง เช่น เครื่องสำอาง บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม

2.    SMEs ควรแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกนำไปลงทุน ปรึกษาธนาคาร LTF RMF กองทุนต่างๆ ตราสารหนี้ / ส่วนที่สองนำมาลงทุนทำธุรกิจ / ส่วนสุดท้ายเก็บสำรองไว้

3.    สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือ คิดให้ต่าง ซึ่งมองได้ 2 มุม มุมแรก การจะเริ่มต้นธุรกิจต้องคิดของที่ใหม่ที่สุดในโลก และการทำตลาดจากสิ่งที่คิดต่าง ส่วนมุมที่2 หากคิดให้แปลกใหม่ที่สุดในโลกไม่ได้ก็ต้องหาช่องว่างการตลาดให้เจอ คนไทยมีความซับซ้อน หลากหลาย ชอบอะไรใหม่ๆ เพราะฉะนั้นยังมีช่องว่างทำการตลาดได้อีก  เช่น ทำอาหารคลีน ต้องเน้นกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ หรือกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชน

4.    ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ อย่างการขายอาหารคลีน ควรหาทำเลเหมาะๆ สำหรับคนทำงาน น่าจะเป็นย่านสีลม สาทร หรือขายสินค้าแฟชั่น ก็อาจจะเน้นย่านวัยรุ่นช้อปปิ้ง เช่น สยาม

5.    เลือกทำธุรกิจที่ถนัด มองดูธุรกิจที่มีช่องว่างการตลาด ไม่ซ้ำกับใครที่มีวางขายในท้องตลาดอยู่แล้ว และต้องมีจุดขายของตัวเองที่ชัดเจน

6.    ไม่ยึดติดกับการจับตลาดใดตลาดหนึ่งเท่านั้น หันมากระจายความเสี่ยงด้วยการผลิตสินค้าจับตลาดได้แทบจะทุกกลุ่ม เช่น การผลิตขนมเพื่อสุขภาพ สามารถจับกลุ่มเด็ก และผู้ใหญ่ก็ได้

SMEs Tips เส้นทางเถ้าแก่ยุคใหม่ ตอน 6 เคล็ดลับแสนง่ายดาย กวาดเงินในกระเป๋าลูกค้า (6 tips-sell)

          คุณคงจะเคยได้ยินวลีเด็ดๆ ที่ว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” แล้วใช่หรือไม่? ต่อไปนี้จะเป็นเคล็ดลับแสนง่าย เพื่อเอาใจพระเจ้าของเราให้เกิดความพึงพอใจอย่างถึงที่สุด และกลับมาใช้บริการ รวมถึงบอกต่อๆกันไปให้เหล่านางฟ้า และเทวดา เข้ามาจับจ่ายอุดหนุนสินค้าของเราให้มากยิ่งขึ้น


1.    รับฟังเสียงของลูกค้า ผู้บริโภคเปลี่ยนทุกวัน อย่าคิดว่า เราแน่เราเก่ง หรือเรารู้ดีที่สุด
2.    ขวนขวายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ
3.    การเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องมีใจบริการ รู้จักสังเกต ละเอียด รับฟังเสียงลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ตรงใจลูกค้าที่สุด
4.    การให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพนักงานของเราก่อน จึงทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อการบริการกับลูกค้า รวมไปถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม
5.    อย่าเบื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และคนใหม่ๆ ทุกวัน เพื่อผลิตสินค้าของเราให้โดนใจกับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ และทุกวัย
6.    จริงใจ ซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเอง และผู้ที่อยู่รอบข้าง อาทิ ลูกค้าในปัจจุบัน และลูกค้าในอนาคต

พุ้งพิ้งยักษ์ (หรือโทงเทงฝรั่ง, เคปกูสเบอร์รี อังกฤษ: Cape gooseberry)

          เจอพี่ที่ทำงานซื้อผลไม้อะไรมาสักอย่าง พอแกแกะดูก็อุทาน โอ้ "พุ้งพิ้งยักษ์"  (ทางภาคใต้เรียกโทงเทง ว่า พุ้งพิ้ง) อย่าหาว่าบ้านนอกเลยนะครับ เกิดมาผมก็พึ่งเคยเห็น ว่าพุ้งพิ้งลูกมันใหญ่จัง พี่ที่ทำงานเลยบอกว่าเป็น โทงเทงฝรั่ง หรือ เคปกูสเบอร์รี (Cape gooseberry) ผมก็บอกว่า อืมมันคล้ายกับพุ้งพิ้งแถวบ้านเลย เคยกินอยู่ตอนเด็ก แต่นี่ลูกใหญ่มาก จากภาพมันก็ใหญ่กว่าเหรียญบาทเล็ก

          ถามแกว่าซื้อมาจากไหน แกบอกว่าเค้ามาวางขายแถวตลาดวัดแขก ตอนแรกก็คิดว่าราคาไม่เท่าไหร พอถามราคาแก พี่แกบอกว่า กิโลละ 250 บาท นี่ซื้อมาแค่ครึ่งโล 55 ผมนี่อึ้งเลยครับ ไม่นึกว่าราคามันจะแพงขนาดนั้น เลยไปลองหาข้อมูลเปรียบเทียบดูว่ามันดียังไง

รูปจาก http://th.wikipedia.org 











ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/โทงเทง
โทงเทง หรือ พุ้งพิ้ง  (ชื่อวิทยาศาสตร์: Physalis minima Linn.) เป็นพืชในวงศ์ Solanaceae มีชื่อเรียกแตกต่างกันในแต่ละท้องที่ เช่น เชียงใหม่ เรียก ต้อมต๊อก หรือ บาตอมต๊อก ปัตตานี เรียก ปุงปิง หนองคาย เรียก ปิงเป้ง [1]เป็นไม้ล้มลุกฤดูเดียว สูง 30 - 40 เซนติเมตร ใบนุ่มและเรียบ ดอกสีเหลือง ผลสีเหลืองมีลักษณะคล้ายผลมะเขือเทศ มีกลีบเลี้ยงหุ้มรูปร่างเหมือนโคมไฟ ชอบดินทรายและที่แห้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

----------------------
ที่มา  : http://th.wikipedia.org/wiki/โทงเทงฝรั่ง
โทงเทงฝรั่ง หรือ เคปกูสเบอร์รี (อังกฤษ: Cape gooseberry) เป็นพืชในวงศ์ Solanaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับมะเขือ มะเขือเทศ มะเขือยาว และมันฝรั่ง (ไม่เกี่ยวข้องกับกูสเบอร์รี) เป็นไม้ล้มลุกกิ่งสีม่วง มีลักษณะเป็นครีบ มีขนปกคลุมหนาแน่น ดอกเดี่ยวออกตามซอกใบ ดอกห้อยลง ก้านผลยาวกว่าก้านดอก ผลสดแบบเบอร์รี มีหลายเมล็ด รูปผลกลม สีเหลืองส้ม ผิวเกลี้ยง มีกลีบเลี้ยงติดทนจนเป็นผล เนื้อผลฉ่ำน้ำ มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก มีถิ่นกำเนิดจากพื้นที่สูงเขตร้อนในประเทศโคลอมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และชิลี รวมทั้งในบราซิล เป็นพืชพื้นเมืองในบริเวณเปรูและชิลี ผลรับประทานสดหรือผสมในฟรุตสลัด มีรสเปรี้ยวอมหวาน ผลที่ต้มแล้วใส่พายหรือพุดดิ้ง แปรรูปเป็นแยมหรือเยลลี่ ในเม็กซิโกใช้กลีบเลี้ยงต้มรับประทานเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ผลดิบเป็นพิษ ผลสุกรสหวานอมเปรี้ยว มีเพกตินมาก

แหม สรรพคุณค่อข้างเยอะ มิน่าเลยราคาแพง เห็นว่าตอนนี้  บ้านเราตอนนี้ก็มีแปลงปลูกเคพกูสเบอรี่ของเกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่บ้านขุนกลาง ดอยอินทนนท์  แล้วตอนนี้ก็เห็นว่า มีการเรียกชื่อใหม่ คือ “ระฆังทอง” หรือ “Golden Bell” ครับผม

สมุดเงินออมปี 2558 (Saving 2015)

         จะเริ่มปีใหม่ สิ่งที่หลายคนจะทำก็คือการวางแผนการใช้เงินในปีหน้า ทั้งเงินโบนัส และเงินเดือน วันนี้ก็เลยมี สมุดบัญชี รายรับ - รายจ่าย ส่วนบุคคล ปี 2558 หรือ สมุดเงินออมปี 2558  ที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยทำออกมาแจกทุกปี สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ 
โดยเป็น excel ไฟล์ครับ ใช้งานง่าย
         

หรือใครชอบของธนาคารกสิกร เจ้านี้เค้าก็ทำมาให้ทุกปีครับ ทั้งแบบ Offline เป็น excel หรือแบบ online  สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ 

หรือหากยังไม่ถูกใจก็สามารถหา Application ต่างทั้งใน Android หรือ iOS โดยลองพิมพ์พวกคำว่า saving หรือสมุดออม ลองดูครับ "อย่าลืมว่า การออมเงิน การวางแผนการเงิน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆนะครับ"

กินไปวันๆ

          "อาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต" ประโยคข้างต้นคงไม่มีใครกล้าเถียงเป็นแน่ ไม่ว่าจะกินวันละมื้อ วันละสองมื้อ หรือกินครบสามมื้อ  อีกอย่างหนึ่งสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิซ ที่จากบ้านมาทำงานในเมืองกรุง มาอยู่ห้องพัก อพาร์ทเมนท์ บ้าน หรือคอนโด ก็แล้วแต่ฐานนะของแต่ละคน การหาอาหารกินนี่ ถ้าไม่ได้เข้าครัวทำเอง แล้วดันไปพักในแหล่งที่เราไม่มีร้านอาหารที่ชอบ ถือว่าเป็นความลำบากอย่างยิ่ง เชื่อไหม
          วันนี้ไม่ได้มาเขียนเรื่องอะไรเกี่ยวกับอาหารสุขภาพ หรืออะไรทั้งนั้น แต่จะมาเล่าว่าในยุคอาหารจานด่วนแบบนี้ กินอะไรบ่อยที่สุด (หมายถึงตัวผมเองนะ ไม่ได้มีผลสำรวจจากสถาบันไหนๆทั้งนั้น 55)

          1.ข้าวมันไก่  จานนี้หาง่าย ทั้งแถวหอพักที่อยู่ และที่ทำงาน มีหลายร้าน แต่ก็ไม่ได้อร่อยหมดทุกร้าน ( ผมอยู่แถวประตูน้ำ มีร้านข้าวมันไก่ที่เค้าว่าดังๆ หลายร้านให้นั่ง)

           2.แกงกะทิหมูกับมะเขือพวง  ถ้วยนี้จะหายากสักหน่อย นอกจากจะทำกินเอง แล้วต้องใช้พริกแกง กะปิทางใต้ด้วยนะครับถึงจะอร่อย ถ้าหาที่ร้านก็นานๆทางร้านเค้าจะทำสลับมาขาย แต่ก็อร่อยดี
           3.ส้มตำปูม้า จานนี้ก็เป็นจานโปรดจานหนึ่งเหมือนกัน กินบ่อย มีร้านเดียวหน้าหอพักที่ตำอร่อย และขายถูก 30-50 บาท แต่ส่วนมากจะมาซื้อตอนไม่ทันปูม้าซักที หมดตั้งแต่หัววันกันเลยทีเดียว

           
          4.ข้าวเหนี่ยว - ไก่ทอด   วันไหนรีบๆ ซื้อข้าวเหนียวห่อนึง ไก่ชิ้นสองชิ้น อยู่ได้อีกครึ่งวัน แต่ร้านที่จะซื้อก็ต้องเลือกหน่อย บางร้านแหม น้ำมันไม่เคยเปลี่ยนเอาเลย แต่ร้านนี้ที่ซื้อบ่อยๆ สะอาดรัดับนึง เปลี่ยนน้ำมันทุกวัน


          5.มะตะบะ  แถวหอพักอีกนั่นแหละ มีขายอยู่เป็นพี่ผู้หญิง แกเป็นคนต่างชาติ แต่ฟังและพูดไทยได้ค่อนข้างชัด แกทำสะอาดและอร่อยด้วย แถมราคาไม่แพง

          6.น้ำพริก ผักต้ม ในรูปนี้ลืมถ่ายรูปน้ำพริกไว้ มีเจ้าประจำเจ้าหนึ่ง ตำได้ค่อยข้างถึงรส ส่วนมากก็จะชอบกินน้ำพริดแมงดาปลาทู ตำใหม่ถุงนึงก็ประมาณ 30 บาท

           7. สลัดรวม วันไหนเกิดรักสุขภาพ ไม่อยากทานเนื้อสัตว์ ก็จัดสลัดมากินกันครับ สำคัญของสลัดก็คือน้ำสลัดนี่แหละ ว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อย

           8. ไข่ดาว ช่วงวันไหนวันหยุดยาวละก็ ตลาดปิด ไม่มีอะไรให้หาซื้อกิน ไข่เจียวหรือไข่ดาวนี่แหละครับ สามารถกินกับข้าวร้อนๆ อยู่รอดได้อีกหนึ่งมื้อ 55

          จบแล้วสำหรับเมนูที่กินบ่ิยๆๆ บางรายการก็เพื่อสุขภาพบ้าง บางเมนูก็เพื่อสนองความอยากกินบ้าง บางเมนูก็เพื่อประทังชีวิตบ้าง เพื่อนๆละครับวันหนึ่งๆ ทานอาหารอะไรกันบ้าง

เพลงต้นตระกูลไทย

           22-5-2557 ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์การเมืองไทยอีกวันหนึงครับ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ ตั้งแต่ 22 พ.ค.เวลา 16.30น. ขอให้ปชช.อยู่ในความสงบ"


            
           แต่ที่กล่าววมาข้างต้น ไม่ได้จะเขียนเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แ่หลังจากทุกสถานีโดนตัดสัญญาณเข้าของ ครส. ช่วงรอประกาศ ก็มีเพลงปลุกใจเปิดให้เราฟังๆวนๆ กันไป ถ้าฟังเพลงที่เปิดๆอยู่ จะมี "เพลงต้นตระกูลไทย" ช่วงที่ร้องว่า "พระราชมนูทหารสมัยกู้ชาติ แสดงความสามารถได้ชัยชนะมากหลาย " พระราชมนู ก็คือบุญทิ้งในเรื่องนเรศวร (เจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดี) ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 29 พ.ค.2557 นี้ในตอนยุทธหัตถี เพลงนี้ผมเคยร้องตั้งแต่ครูสอนตอนอยู่ ป.5 ตอนนี้ก็ยังจำได้อยู่ วันนี้ถือว่าได้ฟังทวนความจำ เลยไปหาเนื้องร้องมาเพิ่มได้ว่า 

คำร้อง: หลวงวิจิตรวาทการ
ทำนอง: หลวงวิจิตรวาทการ ดัดแปลงจากทำนองเพลงเก่า


ต้นตระกูลไทย ใจท่านเหี้ยมหาญ รักษาดินแดนไทย ไว้ให้ลูกหลาน
สู้จนสูญเสีย แม้ชีวิตของท่าน เพื่อถนอมบ้าน เมืองไว้ให้เรา
ลุกขึ้นเถิด พี่น้องไทย อย่าให้ชีวิตสูญเปล่า
รักชาติยิ่งชีพของเรา เหมือนดังพงศ์เผ่า ต้นตระกูลไทย

ท่านพระยาราม ผู้มีความแข็งขัน สู้รบป้องกัน มิได้ยอมแพ้พ่าย
พระราชมนู ทหารสมัยกู้ชาติ แสดงความสามารถ ได้ชัยชนะมากหลาย
เจ้าพระยาโกษาเหล็ก ท่านเป็นแม่ทัพชั้นเอก ของสมเด็จพระนารายณ์
สีหราชเดโช ผจญสงครามใหญ่โต ต่อตีศัตรูแพ้พ่าย
เจ้าคุณพิชัยดาบหัก ผู้กล้าหาญยิ่งนัก ล้วนเป็นต้นตระกูลไทย

หมู่บุคคลสำคัญ หัวหน้าชาวบางระจัน ที่เราหาชื่อได้
นายแท่น นายดอก นายอิน นายเมือง ขุนสรรค์ พันเรือง นายทองแสงใหญ่
นายโชติ นายทองเหม็น ท่านพวกนี้ล้วนเป็น ผู้กล้าหาญชาญชัย
นายจันหนวดเขี้ยว กับนายทองแก้ว ทำชื่อเสียงเพริศแพร้ว ไว้ลายเลือดไทย
ชาวบางระจัน สำคัญยิ่งใหญ่ เป็นต้นตระกูลของไทย ที่ควรระลึกตลอดกาล

องค์พระสุริโยทัย ยอดมิ่งหญิงไทย สละพระชนม์เพื่อชาติ
ท้าวเทพสตรี ท้าวศรีสุนทร ป้องกันถลางนคร ไว้ด้วยความสามารถ
ท้าวสุรนารี ผู้เป็นนักรบสตรี กล้าหาญองอาจ
ป้องกันอีสาน ต้านศัตรูของชาติ ล้วนเป็นสตรีสามารถ ต้นตระกูลของไทย


หากท่านใดอยากฟังก็สามารถไปหาฟังได้ใน youtube นะครับ หรือเปิดทีวีคืนนี้ก็ได้ รับรองได้ฟังหลายเพลงถึงเช้าแน่ ๆ ^_^ ส่วนอันนี้แถมนะครับ

ปฏิวัติ - เปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทย มีการปฏิวัติแค่ครั้งเดียว คือปี 2475 จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นประชาธิปไตย

รัฐประหาร -เกิดขึ้นสดๆร้อนๆและก่อนหน้านี้หลายครั้ง เปลี่ยนแปลงเฉพาะคณะรัฐบาลเท่านั้น โดยที่ประเทศไทยยังคงระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเช่นเดิม

สรุป
เปลี่ยนแปลงระบอบ - ปฏิวัติ
ยึดอำนาจสำเร็จ - รัฐประหาร
ยึดอำนาจไม่สำเร็จ - กบฎ
Advertisement